นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.68 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.74 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าสุดในภูมิภาคเนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากเงินทุนต่างประเทศ (FLOW) ที่ไหลเข้า มาในตลาดพันธบัตร โดยเมื่อวานมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามาอีกราว 2.5 หมื่นล้านบาท
“บาทแข็งค่าลงมามากจากเย็นวานนี้ เช้านี้ลงมาใกล้ระดับแข็งค่าสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากช่วงนี้มี FLOW ไหลเข้ามาพัก ในตลาดพันธบัตรระยะสั้นเป็นจำนวนมากเฉลี่ยวันละ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งต้องดูว่าผู้นำเข้าและส่งออกจะมีท่าทีอย่างไร วันนี้บาทมีโอกาสแข็ง ค่าไปทดสอบที่ระดับ 33.59 (บาท(/ดอลลาร์)”
นักบริหารเงิน กล่าว นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.50 – 33.80 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (9 พ.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.78382% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.92906%
ปัจจัยสำคัญ
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 135.27 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 134.87 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0967 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0983 ดอลลาร์/ยูโร
– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.714 บาท/ดอลลาร์
– “เฟทโก้” เผยดัชนีความเชื่อมั่น นักลงทุนเพิ่มขึ้น 15.1% หวัง “เลือกตั้ง – ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า” หนุน “กอบศักดิ์” ชี้ หากรัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพ ดันดัชนีมองปีนี้ เป็นจังหวะลงทุนหุ้นที่ดี เหตุมักจะต่ำสุด ก่อนเศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุด ด้านตลท. คาดทิศทางเม็ด เงินลงทุนต่างชาติยังผันผวน
– SCB EIC คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่องครั้งละ 25 BPS ไปสู่ ระดับ Terminal rate ที่ 2.5% ในไตรมาส 3 ของปีนี้ และคงไว้เพื่อให้กลไกดอกเบี้ยนโยบายส่งผ่านไปสู่ระบบเศรษฐกิจต่อไป
– ตลาดจีนเที่ยวไทยความหวัง ฟื้นเศรษฐกิจ ขยับแรงครึ่งปีหลัง “ททท.” ชี้แนวโน้ม พ.ค.ยอดมาเยือนแตะล้าน สายการ บิน ขอทำการบินช่วงซัมเมอร์จากจีนเข้าไทยกว่า 6 ล้านที่นั่ง ดันทัวริสต์จีนทะลุเป้าหมาย 5.3 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 4.46 แสนล้าน เตรียมหารือ “กต.” สัปดาห์หน้า เร่งแก้ปัญหาออกวีซ่าไม่เพียงพอดีมานด์
– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (9 พ.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (9 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนกันเข้า ซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐ ขณะที่นักลง ทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในวันนี้
– ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ พบปะกับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อหารือเกี่ยวกับการ เพิ่มเพดานหนี้สหรัฐมูลค่า 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ล่าสุดทั้งสองฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ และจะหารือเพิ่มเติมในวันศุกร์นี้ (12 พ.ค.)
– นักลงทุนรอดูผลการประชุมเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ ขณะที่ตลาดกังวลว่าการเจรจาดังกล่าวจะยังไม่นำไปสู่การบรรลุข้อ ตกลงระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรส เมื่อพิจารณาจากการที่นายแมคคาร์ธีกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า การเพิ่มเพดานหนี้จะต้องแลก เปลี่ยนกับการที่รัฐบาลยอมปรับลดงบประมาณรายจ่าย ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ปธน.ไบเดนไม่สามารถยอมรับได้ โดยระบุว่าการเพิ่มเพดานหนี้เป็น สิ่งที่ไม่สามารถเจรจาต่อรองได้
– ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐวันนี้ ดัชนี CPI เดือนเม.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) – นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.0% ใน เดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากแตะระดับ 5.0% เช่นกันในเดือนมี.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวม หมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 5.5% ซึ่งชะลอตัวจากระดับ 5.6% ในเดือนมี.ค.
– ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กกล่าวว่า เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อไม่ได้ปรับตัว ลง และคาดการณ์ว่า เงินเฟ้อจะต้องใช้เวลาอีก 2 ปีเพื่อให้กลับสู่ระดับ 2%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 พ.ค. 66)
Tags: ค่าเงินบาท, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท