เงินบาทเปิด 33.67 แข็งค่าจากวานนี้สวนทางตลาด ขานรับนโยบายเปิดประเทศ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 33.67 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.88 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทเคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดโลกที่ดอลลาร์แข็งค่า โดยมีปัจจัยหนุนจากการแถลงข่าว ของนายกรัฐมนตรีเรื่องการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.64 เมื่อคืนนี้

“บาทแข็งค่าเร็วมากจากเย็นวานนี้กว่า 20 สตางค์ ตอบรับปัจจัยบวกด้านการท่องเที่ยวหลังนายกฯ ออกมาแถลงเรื่องเปิด ประเทศ แต่อาจเป็นแค่ระยะสั้น เพราะมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.60 – 33.80 บาทดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (11 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.30726% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.33668%

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.42 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 112.94/98 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1548 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ช้าที่ระดับ 1.1554/1557 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.814 บาท/ดอลลาร์

– นายกฯ ออกแถลงการณ์ เปิดประเทศ 1 พ.ย. นำร่องเดินทาง 10 ประเทศ ไม่ต้องกักตัว ส่วนวันที่ 1 ธ.ค. ปลดล็อก เปิดสถานบันเทิง-นั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ รับเทศกาลเฉลิมฉลอง ขณะที่ ศบค.ประชุมวันที่ 14 ต.ค.นี้ สธ.ชง “ลดพื้นที่สีแดงเข้ม เพิ่ม พื้นที่สีส้ม” ยกระดับมาตรการให้สอดคล้องสถานการณ์ หารือนำร่องท่องเที่ยว-โรงแรมใน กทม.จ่อเปิด

– ที่ประชุมคณะกรรมการ บีโอไอ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนสำหรับเอส เอ็มอี อีก 1 ปีจนถึงสิ้นปี 65 โดยมีมาตรการพิเศษสำหรับเอสเอ็มอีคือ กำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5 แสนบาท จะได้รับยกเว้นภาษี เงินได้นิติบุคคลเป็น 2 เท่าจากเกณฑ์ปกติ และผ่อนปรนเงื่อนไข ต่างๆ รวมถึงการให้สิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมตามเกณฑ์ และยังเห็นชอบ มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการยกระดับไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้ลงทุนปรับเปลี่ยนเครื่องจักร

– กรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน แนะรัฐออกมาตรการเพิ่มทั้งช้อปดีมีคืน และเติมเงินคนละครึ่ง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ โค้งสุดท้าย พร้อมปรับประมาณการเติบโต 0-1% จากเดิมติดลบ ได้อานิสงส์ส่งออกโต 12-14%

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลัก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) ขานรับ กระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะประกาศลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนหน้า แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดก็ตาม

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้ง กระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เลื่อนแผนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการผ่อนคลายเชิง ปริมาณ (QE) แม้ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนก.ย.

– นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะประกาศลดวงเงินในโครงการ QE ในเดือนหน้า แม้ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของ สหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 194,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 500,000 ตำแหน่ง หลังจากแตะระดับ 366,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

– นักลงทุนจับตาเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทาง อัตราดอกเบี้ยและแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ของเฟด

– ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย ซึ่งได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนส.ค., อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนก.ย., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ย., ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนต. ค.จากเฟดนิวยอร์ก, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ต.ค. 64)

Tags: ,