นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.55 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.53 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าจากความกังวลกรณีธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) จะปรับลดมาตรการ QE ประกอบกับปัจจัยในประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19
“บาทมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งการแข็งค่าของดอลลาร์ และสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่อาจมี มาตรการคุมเข้มมากขึ้นจะกระทบต่อการฟื้นตัวด้านท่องเที่ยว และอาจมี flow จากผู้ค้าทองคำหลังราคาร่วงกว่า 30 ดอลลาร์”
นักบริหาร เงิน ระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.50 – 33.65 บาท/ดอลลาร์
THAI BAHT FIX 3M (6 ม.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.30719% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.36730%
ปัจจัยสำคัญ
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 116.00 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 115.69 เยน/ดอลลาร์
– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1292 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1305 ดอลลาร์/ยูโร
– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.372 บาท/ดอลลาร์
– จับตา “บิ๊กตู่” นั่งหัวโต๊ะประชุม ศบค.ชุดใหญ่ 7 ม.ค.นี้ เดินหน้าเชิงรุกรับมือโควิดพุ่งหลังเทศกาลปีใหม่ เตรียมปรับ ระดับพื้นที่เป็นโซนสีส้ม พร้อมเพิ่มมาตรการเข้มข้นกิจการร้านค้า งานประเพณี ลดเดินทางข้ามจังหวัด
– ประธานหอการค้าไทยย้ำรัฐห้ามล็อกดาวน์ประเทศ หวั่นเศรษฐกิจพังครืนทั้งระบบ แนะต้องอยู่กับ “โอมิครอน” ให้ได้ ขณะ ที่ ส.อ.ท.หวังรัฐบาลมีประสบการณ์ล็อกดาวน์เฉพาะจุดหรือพื้นที่ ไม่จำกัดการเดินทางหรือกิจกรรมทางเศรษฐกิจแบบวงกว้าง “คลัง” รอม ติ ศบค.ก่อนประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจ
– “สรรพากร” ลุยศึกษารีดภาษีขายหุ้น เคาะเรต 0.1% ชูจ่ายล้านละพัน จ่อชงคลังพิจารณาเร็วๆ นี้ มั่นใจไม่กระทบตลาด หุ้นไทย เหตุหลังโควิดบุก 2 ปี ดัชนียังพุ่ง ด้าน FETCO ชี้ยังไม่ใช่เวลาเหมาะสม หวั่นกระทบวอลุ่มตลาดหาย 20-30%
– สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย”ค้านเก็บภาษี คริปโท หัก ณ ที่จ่าย 15% ของกำไร ทุกทรานเซคชั่น เตรียมจับมือก.ล.ต. เข้าหารือกรมสรรพากร หวั่นนักลงทุนหนีเทรดตลาดต่างประเทศ ด้าน “สมหมาย” เดินหน้าออกฎหมาย ยันมีระบบ ตรวจสอบ ป้องยื่นภาษีไม่ถูกต้อง
– ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เผยแพร่บทความ “เงินเฟ้อโลกไปไกล เงินเฟ้อไทยน่าห่วงหรือไม่?” โดยระบุว่า เงินเฟ้อไทยปี 65 จะยังเคลื่อนไหวในกรอบเป้าหมาย 1-3% และแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อไทยจะปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 2.7% ในเดือน พ.ย.ที่ผ่าน มา แต่ก็ยังต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้ว อาทิ สหรัฐฯ ที่อัตราเงินเฟ้อเดือนเดียวกันอยู่ที่ 6.8% และ อังกฤษอยู่ที่ 5.1%
– รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม. ค.2565 ส่งผลให้ไทยซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกได้รับประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งจากการช่วยลดต้นทุนการผลิตและโอกาสส่งออกสินค้าและ บริการรวมทั้งดึงดูดการลงทุนเข้าประเทศ เพิ่มการจ้างงานให้กับแรงงานที่มีฝีมือและบุคลากรด้านวิชาชีพและส่งเสริมบทบาทของไทยใน ฐานะห่วงโซ่การผลิตที่สำคัญของภูมิภาค
– ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย และที่ปรึกษาการลงทุน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินเฟ้อของ ไทยส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นมาจากราคาน้ำมันเป็นหลัก และส่งผลมายังต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการได้อั้นขึ้นราคามานาน หลายปี ทำให้ในครั้งนี้ผู้ประกอบการอั้นไม่อยู่ ทำให้ผลักภาระไปยังประชาชนดูได้จากดัชนีราคาผู้ผลิตเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ขยายตัว 7.7% ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2.17% ซึ่งมีส่วนต่างด้านต้นทุนอยู่ค่อนข้างมาก ถ้าภาครัฐมีมาตรการประคองเศรษฐกิจก็ยัง เดินหน้าไปได้ แต่ถ้าโอมิครอนเข้ามากระทบทำให้เศรษฐกิจชะลอลงไปบ้าง
– “ภูเก็ต” เดินหน้าเครื่องยนต์ท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจ ควบตั้งรับ “โอมิครอน” ย้ำไม่ปิด “แซนด์บ็อกซ์” เร่งคุมสถานการณ์ วงจำกัด พร้อมเพิ่ม Hotel Isolation ให้ได้ 1,000 ห้องพัก รับผู้ติดเชื้อ ด้าน “เอกชน” ตั้งคอลเซ็นเตอร์ช่วยเหลือทัวริสต์
– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (6 ม.ค.) หลังจากรายงานการประชุมเดือนธ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด การณ์ไว้ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันศุกร์นี้
– กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 207,000 รายใน สัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ราย
– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐพุ่งขึ้น 19.4% สู่ระดับ 8.02 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ. ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.71 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 6.72 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.
– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดี (6 ม.ค.) โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งระบุ ว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุล
– นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของวอลล์สตรีท เจอร์นัลคาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐ จะเพิ่มขึ้น 422,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.1%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 ม.ค. 65)
Tags: ค่าเงินบาท, เงินบาท