เงินบาทเปิด 33.47 ทรงตัวจากวานนี้ ตลาดรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.47 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวเท่ากับช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ เนื่องจากตลาดรอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยชี้นำที่สำคัญในการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคาร

กลางสหรัฐ (เฟด) ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศยังเป็นปัจจัยกดดันให้เงินบาทอ่อนค่า

“บาททรงตัวเท่ากับช่วงปิดตลาดวานนี้ ทิศทางวันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ รอดูตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ”

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.40 – 33.50 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (10 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.29854% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.27545%

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ 110.67 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 110.51 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1715 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1725 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.465 บาท/ดอลลาร์
  • “ธปท.” แจงลดคุ้มครองเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาทเป็นไปตามแผน ยันครอบคลุมผู้ฝากเงินส่วนใหญ่กว่า 98% พร้อมระบุสถาบันการเงินฐานะสุดแข็งแกร่ง โชว์ BIS สูงที่ 20% สภาพคล่องสุดปึ้ก
  • รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีสถาบันการคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) ประกาศลดวงเงินคุ้มครองเงินฝากแก่ผู้ฝากเงินใน 35 สถาบันการเงินจาก 5 ล้านบาทต่อบัญชีต่อสถาบันการเงินเหลือ 1 ล้านบาทเริ่มตั้งแต่ 11 ส.ค.เป็นต้นไปนั้น ในส่วนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 6 แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยหรือธพว. ยืนยันจะไม่ปรับลดการคุ้มครองเงินฝากลง และยังให้การคุ้มครองเงินฝากเหมือนเดิม เนื่องจากทุกธนาคารเป็นธนาคารของรัฐ
  • สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดผลงานรัฐวิสาหกิจตะลุยเบิกจ่ายกระฉูด 1.91 แสนล้านบาท ชู รฟท.-รฟม.-กฟน. ผลงานใช้เงินลงทุนสุดแจ่ม เข็นใช้เงินลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 (ช่วงกรุงเทพมหานคร-นครราชสีมา) โครงการรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ช่วงบางซื่อ-รังสิต และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มคืบสวนทางโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ-ทางวิ่งเส้นที่ 3 สุดอืด
  • สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้เข้าพบกับผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ต่างๆ เพื่อหารือแนวทางในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน รวมทั้งได้ร่วมมือกับธุรกิจค้าปลีกและธนาคารพาณิชย์ จัดทำโมเดลต้นแบบ (Sandbox) เชื่อมโยงข้อมูลคู่ค้า เพื่อให้ SME ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยมีธุรกิจขนาดเล็กผ่านการอนุมัติสินเชื่อจากสถาบันการเงินแล้วประมาณ 3,000 ราย พร้อมทั้งจะขยายผลไปยัง SME จำนวน 5 แสนราย ภายในปี 2564
  • “สุพัฒนพงษ์” กางแผนกระทรวงพลังงานร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยฝ่าโควิด ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจและสังคม ผนึกหน่วยงานและรัฐวิสาหกิจในสังกัด อัดฉีดเงินลงทุนปีนี้กว่า 2 แสนล้านบาท โดยครึ่งปีแรกลงทุนไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท จ้างงานรวมแล้วกว่า 36,000 ตำแหน่ง ครึ่งปีหลังปักหมุดจ้างเพิ่มอีก 2,300 ตำแหน่ง ลดค่าไฟช่วยประชาชน ผุด 4 แผนพลังงานหลักขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าชุมชนและพลังงานในอนาคต
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.3% ในไตรมาส 2 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% ส่วนต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 1.0% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบรายไตรมาส หลังจากหดตัว 2.8% ในไตรมาส 1
  • สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวลง 2.8 จุด สู่ระดับ 99.7 ในเดือนก.ค. หลังจากดีดตัวขึ้นในเดือนมิ.ย. โดย NFIB ระบุว่า ภาคธุรกิจมีความกังวลเกี่ยวกับการขาดแคลนแรงงาน และเงินเฟ้อที่ก่อตัวขึ้น
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะเป็นปัจจัยผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพุธ และเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันพฤหัสบดี
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
  • นักลงทุนคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ส.ค. 64)

Tags: , ,