นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.39 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 33.50 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทแข็งค่า เป็นผลมาจากค่าเงินหยวนที่ธนาคารกลางของประเทศจีนเซ็ตให้เงินหยวนแข็งค่าลงมาค่อนข้างมาก ซึ่งแข็งค่ามากที่สุดตั้งแต่ปี 61 ส่งผลให้เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคแข็งค่าตาม สำหรับปัจจัยในประเทศ หลังทั่วโลกเริ่มคลายกังวลกับโควิดสายพันธุ์โอไมครอน เรื่องการเปิดเมืองจึงมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.30-33.55 บาท/ดอลลาร์ โดยพรุ่งนี้มีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
THAI BAHT FIX 3M (8 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.10845% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.22841%
ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.77 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.51 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1335 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1284 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.512 บาท/ดอลลาร์
- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย หลังจากกความวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเริ่มบรรเทาลง
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
- บริษัทไฟเซอร์ อิงค์และไบออนเทค ออกแถลงการณ์ร่วมกันในวันนี้ ระบุว่า วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทคจำนวน 3 โดสมีประสิทธิภาพสูงในการสร้างภูมิต้านทานต่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิด เผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11.0 ล้านตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS เป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่เฟดใช้ในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ย
- ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางขนาดใหญ่ 3 แห่งของโลกในสัปดาห์หน้า โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมในวันที่ 14-15 ธ.ค. ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะจัดการประชุมพร้อมกันในวันที่ 16 ธ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 64)
Tags: ค่าเงินบาท, อัตราแลกเปลี่ยน, เงินบาท