เงินบาทเปิด 33.35/65 อ่อนค่าจากวานนี้ ตลาดคลายกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 33.35/65 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่า จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 33.18 บาท/ดอลลาร์

เช้านี้เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวอ่อนค่า หลังดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่า จากปัจจัยที่วานนี้รมว.คลังสหรัฐฯ ออก มาระบุว่า ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้าจึงสร้างความผ่อนคลายให้กับตลาด

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตามวันนี้ คือดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของสหรัฐฯ และยุโรป

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.40 – 33.60 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 142.00 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 140.46 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1370 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1487 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.175 บาท/ดอลลาร์
  • รัฐบาลแจงเลื่อนนัดเจรจาภาษีตอบโต้สหรัฐฯ “แค่เลื่อน ไม่ได้ล่ม” เหตุเพื่อทบทวนแผนให้ชัดเจนที่สุด “พิชัย” ยันเหลือ อีก 70 วัน รู้ทุกคนร้อนใจ แต่หากไปต้องพร้อมทุกด้าน ชี้จนถึงตอนนี้ผ่านมาเกิน 10 วันมีประเทศเดียวที่ได้เจรจา ขณะที่ รมว.พาณิชย์ ไม่ กังวลจีนบีบไทยกลับ ยันเราเป็นมิตรกับทุกประเทศ
  • ธนาคารกสิกรไทย ชี้ ผลกระทบนโยบายภาษีของทรัมป์ สั่นสะเทือนทั่วโลก ส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอน-ความเสี่ยงพุ่ง ด้าน “แบงก์” ปรับกลยุทธ์เข้าสู่โหมด “ชะลอการปล่อยสินเชื่อ” เพื่อรอดูสถานการณ์ก่อน รับกระทบภาพรวม “การปล่อยสินเชื่อ” ปีนี้อาจ ไม่เป็นตามเป้าเดิมยาก ภายใต้ “จีดีพีดิ่ง”
  • นายกฯ อิ๊งค์ ดับลือยันยังไม่ปรับ ครม. ปลอบ รมต.ทำใจให้นิ่งไว้ แต่บอกใด ๆ ในโลกล้วนอนิจจัง พร้อมรับฟังผลโพ ล ‘ภูมิธรรม-อนุทิน’จับมือโชว์ พท.-ภท. ยังปึ้ก พปชร.ชี้เฟคนิวส์ดึงให้กลับร่วม รบ.
  • ประธานที่ปรึกษาสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ตลาดนักท่อง เที่ยวจีน โดยเมื่อวันที่ 16 เม.ย.2568 ตลาดจีนยังคงดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง โดยทำสถิติต่ำสุดที่ 5,833 รายต่อวัน จากค่าเฉลี่ยที่เคยมีนัก ท่องเที่ยวจีนเข้าไทยวันละ 15,000-20,000 ราย ถือว่ารุนแรงมากที่สุด โดยเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ภาวะตกต่ำครั้งใหญ่คือในปี 2561 ที่ เหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ต โดยสถานการณ์ตอนนี้ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบอื่นๆ ซ้ำเติม ทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจจากภาษีตอบโต้ของ สหรัฐฯ และนโยบายของรัฐบาลจีนในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ และแม้ว่าประเทศไทยจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนขั้นต่ำ กลับมาที่ 10,000-15,000 คนต่อวัน ได้อีกครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ แต่จำนวนนักท่องเที่ยวโดยรวมก็ทำได้เพียง 4.2-5.5 ล้านคน ซึ่ง ต่ำกว่าเป้าหมาย 7 ล้านคน และต่ำกว่า 6.7 ล้านคนที่ได้รับในปี 2567 เสียอีก
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า โดยในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจ โลก (WEO) ที่มีการเผยแพร่ล่าสุดเมื่อวานนี้ IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.8% และ 3.0% ในปี 2568 และ 2569 ตาม ลำดับ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.3% สำหรับปี 2568 และ 2569 โดยคาดว่าเศรษฐกิจะได้รับผลกระทบจากมาตรการเรียกเก็บภาษี ศุลกากรของสหรัฐฯ
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาไม่มีเป้าหมายที่จะปลดเจอโรม พาวเวล ออกจากตำแหน่งประธาน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก่อนที่พาวเวลจะครบวาระในปีหน้า อย่างไรก็ดี เขายังคงกดดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจ
  • นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้า หลังจากที่รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ คาดว่าความขัดแย้งด้านการค้า ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า – สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (22 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากรัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้แสดงความ เชื่อมั่นว่าความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (22 เม.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และ จากการที่รัฐมนตรีคลังของสหรัฐฯ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะคลี่คลายลงในไม่ช้า
  • เจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง โดยคาดว่าราคาจะพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4,000 ดอลลาร์/ ออนซ์ในปีหน้า เนื่องจากนักลงทุนจะเข้าซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มถดถอย และจากผลกระทบของมาตรการ ภาษีศุลกากร
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญที่จะเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้น เดือนเม.ย.จาก S&P Global, ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงเช้าวันที่ 24 เม.ย.ตามเวลา ประเทศไทย

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 เม.ย. 68)

Tags: , ,