เงินบาทเปิด 32.92 แนวโน้มอ่อนค่า จับตาถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่เฟด-สถานการณ์ ตอ.กลาง

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 32.92 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากปิดวันก่อนที่ระดับ 32.74 บาท/ดอลลาร์ โดยตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ตามโมเมนตัมการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์สหรัฐ และแรงขายสินทรัพย์ไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติ

ทั้งนี้ เงินบาทยังมีโอกาสทยอยอ่อนค่าลงได้ไม่ยาก ตราบใดที่ผู้เล่นในตลาดไม่ได้กลับมาเชื่อมั่นว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จำเป็นต้องเร่งลดดอกเบี้ยในการประชุมที่เหลือของปีนี้ไปจนถึงช่วงต้นปีหน้า ซึ่งต้องรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ทั้งในคืนนี้ และการายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตร ในคืนวันศุกร์

พร้อมกันนั้น ผู้เล่นในตลาดจะจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด และรอติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด ว่าจะทวีความรุนแรง และลุกลามบานปลาย จนส่งผลกระทบในวงกว้างหรือไม่

“การอ่อนค่าของเงินบาท อาจมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไปได้ ตราบใดที่ราคาทองคำ ยังมีจังหวะปรับตัวสูงขึ้น จากความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง” นายพูน ระบุ

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 32.80-33.20 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.15 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 144.28/29 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1037 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1067/1068 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท. อยู่ที่ระดับ 32.614 บาท/ดอลลาร์
  • นายกฯ ‘อุ๊งอิ๊งค์’ บินสู่โดฮา กาตาร์ โชว์วิสัยทัศน์ครั้งแรกบนเวทีประชุมสุดยอดผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย
  • วิกฤติภูมิรัฐศาสตร์ตะวันออกกลางระอุ การโจมตีขยายวง อิหร่านเปิดฉากยิงขีปนาวุธเข้าโจมตีอิสราเอล แม้อิหร่านประกาศยุติโจมตี ด้านตลาดน้ำมันมีโอกาสพลิกฟื้นหลังราคาซึมยาว สศช.ห่วงเงินเฟ้อฉุดโอกาสลดดอกเบี้ย ส.อ.ท.หวั่นค่าระวางเรือปรับสูงขึ้น สรท.วิตกฉุดตลาดยุทธศาสตร์ส่งออกไทย
  • ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้วิเคราะห์สถานการณ์การขอใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าระหว่างไทยและจีนในปี 66 ซึ่งมีร่วมกัน 2 ฉบับ ได้แก่ ตกลงทางการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-จีน ที่บังคับใช้ตั้งแต่ปี 47 และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซป) ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปี 64 เพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการใช้ประโยชน์จากความตกลงทางการค้าที่มีอยู่ พร้อมแนะให้ผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์ให้มากขึ้น โดยปัจจุบันไทยและจีนอยู่ภายใต้เอฟทีเอ
  • ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 143,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 128,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (2 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่าภาคเอกชนของสหรัฐฯ จ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (2 ต.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ และสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด
  • นักลงทุนติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด หลังจากอิสราเอลประกาศว่าจะโจมตีอิหร่าน เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ยิงขีปนาวุธจำนวนมากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่กลุ่ม Islamic Resistance ในอิรัก ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธชาวมุสลิมนิกายชีอะห์และได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้ส่งโดรนโจมตีเป้าหมายหลายแห่งในอิสราเอล
  • นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และในวันศุกร์จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ก.ย.
  • นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 144,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราว่างงานอยู่ที่ระดับ 4.2% ในเดือนก.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน ส.ค.

Tags: ,