เงินบาทเปิด 32.44 กลับมาอ่อนค่า หลังเฟดส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย จับตา Flow ไหลออก

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 32.44 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก ช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.21 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคและตลาดโลก หลังดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อ เทียบกับสกุลเงินหลัก เนื่องจากตลาดปรับคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังประธานเฟดส่ง สัญญาณเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น และบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น

ส่วนปัจจัยในประเทศ ตลาดรอดูทิศทางของเงินทุนระหว่างประเทศ (Flow) ในตลาดหุ้นและตลาดพันธ์บัตร โดยเริ่มมีสัญญาณ ต่างชาติขายออกมา

“บาทกลับมาอ่อนค่าตามทิศทางตลาดโลก หลังจากเมื่อวานแข็งค่าลงมาเร็ว ทำนิวโลว์ในรอบ 31 เดือน โดยตลาดปรับคาด การณ์เรื่องการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดที่อาจน้อยลง จากครั้งก่อนที่ปรับลงมา 0.50%” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 32.30 – 32.55 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 144.05 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 142.77 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.1128 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1170 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 32.259 บาท/ดอลลาร์

– จับตาขุนคลัง “พิชัย” พบผู้ว่าแบงก์ชาติ 3 ต.ค.นี้ ถกค่าบาทแข็ง-หารือดอกเบี้ย หลัง ธปท.จัดงานใหญ่พร้อมเชิญ รมว. คลัง กล่าวเปิดงาน

– “รมช.คลัง” เตรียมนัด “สศค.” และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาศึกษาการเปิด “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” เพื่อ หาข้อสรุป คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่เกินต้นเดือน ต.ค.นี้ จากนั้นจะรายงานความคืบหน้าให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับ ทราบต่อไป

– ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 2 ครั้ง รวม ทั้งสิ้น 0.50% ในปีนี้ หากเศรษฐกิจมีพัฒนาการที่เป็นไปตามคาด และเฟดจะ “ไม่รีบร้อน” ดำเนินการดังกล่าว หลังมีข้อมูลใหม่ซึ่งทำให้ เฟดเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภคเติบโตอย่างต่อเนื่อง

– เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 35% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ย. ลดลงจากระดับ 37% ก่อนที่พาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ในครั้งนี้ และลดลงจากระดับ 53% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.)

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (30 ก.ย.) หลังจากเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดไม่รีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุน จับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดก่อนสิ้น ปีนี้

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (30 ก.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และจากการที่ เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดไม่รีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

– ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนก.ย.จาก S&P Global, ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM), ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรง งาน (JOLTS) เดือนส.ค. และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนส.ค.

– นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันศุกร์นี้ จะเพิ่ม ขึ้น 144,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.ย.จะอยู่ที่ 4.2% ซึ่งไม่ เปลี่ยนแปลงจากเดือนส.ค.

– นักลงทุนในเอเชียจะให้ความสนใจกับผลสำรวจทังกัน (Tankan) ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งวัดระดับความเชื่อมั่น ทางธุรกิจของบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่น โดยผลสำรวจดังกล่าวเป็นผลสำรวจรายไตรมาสที่ใช้วัดภาวะเศรษฐกิจในญี่ปุ่น และถือเป็นตัวชี้วัด เศรษฐกิจที่สำคัญ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 ต.ค. 67)

Tags: , ,