นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ชี้แจงกรณีผลสำรวจความคิดเห็นของพรรคเพื่อไทย เรื่องการเก็บค่าธรรมเนียมการขับรถเข้าเมือง (ภาษีรถติด) เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในเมือง และส่งเสริมการใช้บริการขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น ซึ่งพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยว่า การที่กระทรวงคมนาคม มีนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเริ่มที่รถไฟฟ้าสายสีแดง และสายสีม่วง ทำให้มีประชาชนใช้บริการเพิ่มขึ้น 60%
ส่วนสายอื่น ๆ ต้องรอให้มี พ.ร.บ.ตั๋วร่วม และคาดว่าจะเริ่มได้ในเดือนกันยายน 2668 ที่ประชาชนได้ใช้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย แต่ต่อมามี การพูดถึงเรื่องของการตั้งกองทุนขึ้นมา เพื่อที่จะซื้อรถไฟฟ้าทุกสาย ซึ่งการที่จะซื้อรถไฟฟ้าทุกสายได้ ต้องมีแหล่งรายได้ของกองทุนเพื่อไปซื้อรถไฟฟ้า ซึ่งจากการศึกษาในหลายประเทศ พบว่า การแก้ปัญหาเรื่องรถติด จะต้องมีการเก็บเงินหรือเรียกว่า “ภาษีรถติด”
“จะมีการตั้งที่ปรึกษา เพื่อศึกษาในรายละเอียดว่าจะจัดเก็บที่ไหน อย่างไร และผลประโยชน์ต่อประชาชนได้อย่างไร เชื่อว่าหากประชาชนใช้รถไฟฟ้าในราคาถูกมาก ๆ ก็ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และปัจจุบันการใช้รถยนต์ส่วนตัว มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก และกว่าจะกลับถึงบ้านก็ใช้เวลานานมาก ความสุขในครอบครัวก็ไม่เกิด”
รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม กล่าว
นายสุริยะ ย้ำว่า เรื่องของการเก็บภาษีรถติดนั้น จะให้มีการศึกษาก่อนว่าผลออกมาดีหรือ ไม่ดีอย่างไร หลังจากนั้นก็จะอธิบายทำความเข้าใจให้ประชาชนฟัง ซึ่งผลการศึกษาดังกล่าวน่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ส่วนเรื่องรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ต้องทำให้ได้แน่นอน
นายสุริยะ กล่าวว่า ตัวเลขที่จะเก็บที่กำหนดไว้มีตั้งแต่ 40 – 50 บาทต่อวัน แต่การเก็บภาษีรถติดได้นั้น จะต้องเก็บในเส้นทางที่มีรถไฟฟ้าให้บริการ เพราะเมื่อมีรถไฟฟ้าแล้ว ยังจะใช้รถส่วนตัวที่ส่งผลให้เกิดมลภาวะต่าง ๆ รัฐบาลอาจจะต้องเรียกเก็บภาษี และต้องมีทางเลือกให้กับคนที่ใช้รถยนต์ด้วย ทั้งนี้ ก่อนการเก็บภาษีรถติด จำเป็นต้องทำให้ระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อกันก่อน
อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นการเก็บภาษีรถติด จะเก็บเฉพาะรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โดยเชื่อว่า หากเปลี่ยนพฤติกรรมจากรถยนต์ส่วนบุคคลไปใช้รถไฟฟ้า จะทำให้มลภาวะในเขตเมืองลดลงได้แน่นอน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ต.ค. 67)