นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.เกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ที่ส่งผลให้สภาวะตลาดการลงทุนทั่วโลกมีแนวโน้มผันผวนเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บลจ.เกียรตินาคินภัทร จึงขอแนะนำกองทุนเปิดเคเคพี โกลบอล มัลติ แอสเซ็ท อินคัม เฮดจ์ (KKP INCOME-H FUND) กองทุนที่มีจุดเด่นในการมุ่งสร้างผลตอบแทนกระแสเงินสดสม่ำเสมอ ด้วยกลยุทธ์กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนที่ต้องการลงทุนต่อเนื่องและสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าระดับเงินเฟ้อในระยะยาวอย่างสม่ำเสมอ โดยเปิดเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 10-17 ม.ค. 2565 ด้วยมูลค่าขั้นต่ำในการซื้อเพียง 1,000 บาท
“KKP INCOME-H FUND เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียวคือ BGF Global Multi-Asset Income Fund ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ระหว่างการลงทุน และขณะเดียวกันยังสร้างโอกาสเติบโตของเงินทุนระยะยาว ผ่านการลงทุนในหลากหลายประเภททรัพย์สินต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงตราสารทุน ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือก ด้วยกลยุทธ์การจัดสัดส่วนการลงทุน/จัดพอร์ตการลงทุนแบบยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสภาวการณ์ โดย KKP INCOME-H FUND ได้รับการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเกือบทั้งหมด คือไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนให้กับผู้ลงทุน”
นายยุทธพล กล่าว
จุดเด่นของกองทุน KKP INCOME-H FUND คือการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายอย่างครอบคลุมทั่วโลก เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ซึ่งที่ผ่านมากองทุนมีผลการดำเนินงานที่น่าประทับใจนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2555 แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการกำหนดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ทีมผู้จัดการกองทุนยังให้ความสำคัญกับการลดความเสี่ยงขาลงในช่วงตลาดผันผวน โดยมีเป้าหมายการบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อให้ความเสี่ยงของกองทุนต่ำกว่าพอร์ตลงทุนอ้างอิงซึ่งประกอบด้วยตราสารทุนร้อยละ 50 และตราสารหนี้ร้อยละ 50 ช่วยลดโอกาสในการสูญเสียการเติบโตของเงินลงทุนระยะยาว
“สภาวะตลาดการลงทุนในระยะต่อจากนี้ ยังมีแนวโน้มผันผวนเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในยุโรป ที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในหลายประเทศและการประกาศปิดเมืองบางส่วน จนเกิดเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านมาตรการปิดเมือง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ อีกทั้งปัญหาความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานที่ยังคงไม่คลี่คลาย ซึ่งอาจส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทลดลง ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อคงมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้ บลจ.เกียรตินาคินภัทร มองว่า การกระจายการลงทุนไปสินทรัพย์ที่หลากหลายเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ดีในสภาวะที่ตลาดการลงทุนมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น โดยเฉพาะการกระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าระดับเงินเฟ้อในระยะยาวได้อย่างสม่ำเสมอ เป็นการลงทุนที่น่าสนใจในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยในประเทศยังคงอยู่ในระดับต่ำเช่นในระยะนี้”
นายยุทธพล กล่าว
กองทุน KKP INCOME-H แบ่งชนิดหน่วยลงทุน (Share class) ออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดทั่วไป และชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Auto redemption) โดยกองทุน KKP INCOME-H ชนิดทั่วไป จะเน้นการรับผลตอนแทนในระยะยาว โดยผู้จัดการกองทุนจะนำรายรับที่ได้จากการลงทุนไปลงทุนต่อเนื่อง ในขณะที่กองทุน KKP INCOME-H-R ชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ จะเน้นการสร้างกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอ ซึ่งกองทุนมีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติสูงสุดไม่เกิน 12 ครั้งต่อปี เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกระแสเงินสดสม่ำเสมอทุกเดือน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ม.ค. 65)
Tags: กองทุนรวม, กองทุนเปิด, ยุทธพล ลาภละมูล, เกียรตินาคินภัทร