เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเมืองมาร์แซย์ ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า มีผู้สูญหาย 8 รายที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง หลังเกิดเหตุอาคาร 2 หลังถล่มจากแรงระเบิดเมื่อเช้าวันอาทิตย์ (9 เม.ย.)
ด้านนายโดมินิก ลอเรนส์ อัยการเมืองมาร์แซย์ แถลงข่าวว่ายังไม่ทราบสาเหตุการระเบิดดังกล่าว โดยการพังทลายของอาคารทำให้เกิดไฟไหม้ ทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการสืบสวนเหตุครั้งนี้เป็นไปอย่างยากลำบาก และขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ส่วนตัวอาคารนั้นไม่ปรากฏว่ามีปัญหาด้านโครงสร้างแต่อย่างใด
ภาพข่าวจากโทรทัศน์เผยให้เห็นกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากซากปรักหักพังในขณะที่นักผจญเพลิงกำลังพยายามดับไฟ ส่วนสุนัขกู้ภัยยังคงค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ใต้ซากอาคาร
“เราไม่เหลืออะไรแล้ว แม้กระทั่งบัตรประชาชน หมดแล้วทุกอย่าง” นายโรลองด์ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นลาพรอว็องส์ (La Provence) โดยเขากับภรรยาและลูก 2 คนหนีออกจากอาคาร ณ ถนนรู เดอ ตีโวลี 15 (15 Rue de Tivoli) ได้ทันก่อนที่จะถล่มลงมาพร้อมกับอาคารอีกหลัง ส่วนอาคารหลังที่สามถล่มลงมาเพียงบางส่วน
ทั้งนี้ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหนักถูกนำส่งโรงพยาบาล 5 ราย แต่อาการไม่สาหัส
ด้านนายเจอรัลด์ ดาร์มานัง รัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศส เดินทางมายังที่เกิดเหตุและกล่าวว่า ได้มีการอพยพผู้คนออกจากอาคารอีก 30 หลังในบริเวณใกล้เคียงแล้ว
เหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2561 โดยอาคาร 3 แห่งห่างออกไปจากจุดเกิดเหตุในขณะนี้ไปเพียงประมาณ 1 กิโลเมตรได้พังถล่มลงมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย อย่างไรก็ดี นายกเทศมนตรีเมืองมาร์แซย์กล่าวว่าทั้งสองเหตุการณ์นี้ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
ด้านประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์ว่า “ขอส่งกำลังใจไปถึงมาร์แซย์”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 เม.ย. 66)