อีสท์สปริง เปิดขายกองทุน ES-GOV1Y9 เน้นลงทุนพันธบัตรรัฐบาล 20-24 มี.ค.นี้

นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การลงทุนในช่วงนี้ที่สถานการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นมีความผันผวน แนะนำให้มีการกระจายพอร์ตการลงทุนไปในพันธบัตรรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่ช่วยลดความเสี่ยงของพอร์ตโดยรวม และพร้อมคว้าโอกาสการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลที่สามารถสร้างอัตราผลตอบแทนได้ในระดับที่น่าสนใจ

ประกอบกับบลจ.อีสท์สปริง ยังคงประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจากการขายกองทุนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 1 ปี ที่สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว จากความต้องการกองทุนประเภทเทอมฟันด์อย่างต่อเนื่องของนักลงทุนจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อรองรับสถานการณ์และความต้องการดังกล่าว จึงเตรียมเปิดเสนอขาย กองทุนเปิดอีสท์สปริงพันธบัตรรัฐบาล 1Y9 (ES-GOV1Y9) มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 1,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 20-24 มี.ค.นี้

โดยกองทุนนี้มีนโยบายนำเงินไปลงทุนในตราสารภาครัฐ อาทิ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน ในอัตราส่วนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน ทั้งนี้กองทุนจะลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยในสัดส่วน 100% ที่ให้ผลตอบแทนประมาณ 1.74% ต่อปี โดยหลังจากหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.14% ต่อปีของ NAV แล้ว คาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 1.60% ต่อปีของ NAV

สำหรับกองทุน ES-GOV1Y9 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐ จึงเหมาะสำหรับนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก โดยจะลงทุนครั้งเดียว และถือทรัพย์สินที่ลงทุนจนครบอายุโครงการ (Buy and Hold) โดยบริษัทฯ จะดำเนินการให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ และทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยทุกราย ไปยังกองทุนเปิดทหารไทยธนรัฐ หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่บริษัทจัดการเปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ

อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่โฆษณาไว้ โดยผู้ลงทุนจะไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 1 ปีได้ ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก และบริษัทจัดการจะสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนได้ เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นและสมควรเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 มี.ค. 66)

Tags: , , , , , ,