นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสลาเปิดเผยผ่านทางทวิตเตอร์ว่า ราคารถยนต์ของเทสลาจะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาด้านซัพพลายเชนที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก โดยเฉพาะวัตถุดิบในการผลิต
รายงานระบุว่า ผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @Ryanth3nerd ได้ทวีตข้อความว่า “ฉันไม่ชอบแนวทางของเทสลาที่กำลังปรับขึ้นราคารถยนต์ แต่กลับเอาฟีเจอร์ต่างๆ เช่น หมอนรองเอว (Lumbar) ออกไปจากรถยนต์รุ่น Model Y” จากนั้นนายอีลอน มัสก์ได้เข้ามาตอบทวีตดังกล่าว โดยระบุว่า “ราคาเพิ่มขึ้นก็เพราะแรงกดดันของราคาในระบบซัพพลายเชนที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบ”
ข้อมูลบนเว็บไซต์ Electrek ระบุว่า ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เทสลาได้ปรับขึ้นราคารถยนต์รุ่น Model 3 และ Model Y ซึ่งเป็นการปรับขึ้นราคาเป็นครั้งที่ 5 ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน
ส่วนในการประชุมเทสลาเมื่อเดือนเม.ย.ซึ่งมีการเปิดเผยผลประกอบการด้วยนั้น เทสลาได้เปิดเผยถึงสถานการณ์ที่ยากลำบาก อันเนื่องมาจากปัญหาด้านซัพพลายเชน โดยระบุถึงการขาดแคลนชิปซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตรถยนต์
สำหรับกรณีที่เทสลาได้ยกเลิก Lumbar ซึ่งเป็นโหมดซัพพอร์ทการขับขี่และผู้โดยสารในรถยนต์เทสลาร์รุ่น Model Y นั้น นายมัสก์กล่าวว่า “เรานำ Lumbar ออกแค่เฉพาะที่นั่งโดยสารด้านหน้าเท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนที่แทบจะไม่ได้ใช้งาน มันไม่คุ้มที่จะมีอุปกรณ์ที่แทบจะไม่ได้ใช้งานเลย”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (01 มิ.ย. 64)
Tags: ชิป, รถยนต์, อีลอน มัสก์, อุตสาหกรรมรถยนต์, เทสลา