อียูไฟเขียวเปิดการเจรจารับบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาเข้าเป็นสมาชิก

สหภาพยุโรป (อียู) ได้เปิดทางให้ประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาเริ่มการเจรจาเพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกอียู โดยความคืบหน้าครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนายื่นขอเป็นสมาชิกอียูอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว

สำนักข่าวบีบีซีรายงานในวันนี้ (22 มี.ค.) ว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของอียู ได้เสนอให้เริ่มการเจรจากับบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาในเรื่องการเป็นสมาชิกอียู และข้อเสนอนี้ก็ได้รับการอนุมัติจากกลุ่มผู้นำอียู

ในโอกาสนี้ นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้แสดงความยินดีกับผู้นำของบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา

“การตัดสินใจในวันนี้เป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางสู่อียู การทำงานอย่างหนักจำเป็นจะต้องดำเนินต่อไปเพื่อให้บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนามีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องตามที่ประชาชนปรารถนา” นายมิเชลกล่าว

นางบอร์ยานา คริสโต ประธานคณะรัฐมนตรีแห่งบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ได้แสดงความขอบคุณและกล่าวว่า ความสำเร็จนี้เกิดจากความมุ่งมั่นและความพยายามร่วมกันในการบรรลุข้อกำหนดกฎเกณฑ์ที่จำเป็น

ทั้งนี้ การอนุมัติการเจรจาเพื่อเป็นสมาชิกอียูถือเป็นช่วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์สำหรับบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ซึ่งรอคอยโอกาสนี้มาตั้งแต่ปฏิญญาเทสซาโลนีกี ปี 2546 (2003 Thessaloniki Declaration) โดยในขณะนั้น อียูแสดงความปรารถนาให้กลุ่มประเทศในคาบสมุทรบอลข่านตะวันตกเข้าร่วมเป็นสมาชิก นับตั้งแต่นั้นมา มีเพียงโครเอเชียเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จในการเข้าเป็นสมาชิกอียู

บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาได้รับสถานะผู้สมัครในเดือนต.ค. 2565 หลังจากยื่นขอเป็นสมาชิกในปี 2559 โดยในปีที่ผ่านมานั้น บอสเนียได้ออกกฎหมายที่เน้นเรื่องประชาธิปไตย หลักนิติธรรม สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และการปฏิรูปการบริหารประเทศ ตามที่กำหนดโดยคณะกรรมาธิการยุโรป

อย่างไรก็ตาม บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนายังคงเผชิญอุปสรรคอันเกิดจากความแตกแยกทางชาติพันธุ์และการเมือง ซึ่งยังคงอยู่มาตั้งแต่สงครามเมื่อปี 2535-2538 โดยบอสเนียจะต้องดำเนินการปฏิรูปด้านเศรษฐกิจและประชาธิปไตยเพิ่มเติมก่อนที่จะสามารถเข้าร่วมกับอียูอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นกระบวนการที่อาจใช้เวลานานหลายปี

ทั้งนี้ สงครามในยูเครนทำให้อียูตระหนักถึงความสำคัญของการแสดงความมุ่งมั่นต่อคาบสมุทรบอลข่านตะวันตก โดยประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศในภูมิภาคนี้ รวมถึงแอลเบเนีย คอซอวอ มอนเตเนโกร มาซิโดเนียเหนือ และเซอร์เบีย ต่างยื่นขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกอียูด้วยเช่นกัน และอยู่ในขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการสมัคร

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 มี.ค. 67)

Tags: , , ,