รัฐบาลอิสราเอลประกาศระงับเที่ยวบินจาก 7 ประเทศในทวีปแอฟริกา หลังมีรายงานการพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ซึ่งมีชื่อว่า B.1.1.529 ในแอฟริกาใต้ โดยประเทศทั้ง 7 ที่ถูกระงับเที่ยวบินในครั้งนี้ได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี, โมซัมบิก และแอฟริกาใต้
ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกแถลงการณ์วานนี้ว่า นายกรัฐมนตรีนัฟทาลี เบนเนตต์ และนายนิทซาน ฮอรวิทซ์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของอิสราเอลเป็นผู้ตัดสินใจระงับเที่ยวบินจาก 7 ประเทศเหล่านี้ โดยระบุว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยง
“ชาวต่างชาติที่เดินทางมาจาก 7 ประเทศนี้ไม่สามารถเข้าอิสราเอลได้ ส่วนพลเมืองชาวอิสราเอลที่เดินทางกลับมาจากประเทศเหล่านี้ จะต้องกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 7 วัน แม้ว่าได้รับวัคซีนครบโดสแล้วก็ตาม” ทำเนียบนายรัฐมนตรีอิสราเอลระบุในแถลงการณ์
มาตรการดังกล่าวของอิสราเอลเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่รัฐบาลอังกฤษที่ได้ประกาศระงับเที่ยวบินจาก 6 ประเทศในทวีปแอฟริกาเป็นการชั่วคราว ซึ่งได้แก่ นามิเบีย, เลโซโท, ซิมบับเว, บอตสวานา, เอสวาตีนี และแอฟริกาใต้
การดำเนินการป้องกันของทั้งสองประเทศมีขึ้น หลังจากนายทอม พีค็อก นักไวรัสวิทยาของอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนในอังกฤษได้ตรวจพบคลัสเตอร์ขนาดเล็กของผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวซึ่งมีชื่อว่า B.1.1.529 ซึ่งไวรัสชนิดนี้สามารถหลบภูมิคุ้มกันได้
ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) เตรียมจัดการประชุมวาระพิเศษในวันนี้ (26 พ.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 ที่พบในแอฟริกาใต้ ซึ่งไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้มีการกลายพันธุ์เป็นจำนวนมาก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 พ.ย. 64)
Tags: COVID-19, อิสราเอล, แอฟริกา, โควิด-19, โควิดสายพันธุ์ใหม่