สำนักงานสถิติอินโดนีเซียเปิดเผยในวันนี้ว่า การส่งออกของอินโดนีเซียในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 11 ปีเมื่อเทียบรายปี โดยได้แรงหนุนจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ระดับสูง และฐานเปรียบเทียบที่ระดับต่ำ ขณะที่การนำเข้าก็พุ่งขึ้นด้วยเนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศเพิ่มขึ้น
อินโดนีเซียซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการส่งออกที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างมากหลังได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ระบาด โดยราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลักทะยานขึ้นท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากหุ้นส่วนการค้าที่สำคัญอย่างจีนและสหรัฐ
ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ถ่านหิน น้ำมันปาล์ม และทองแดง เพิ่มขึ้นประมาณเท่าตัวเมื่อเทียบรายปี ซึ่งช่วยให้อินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้าถึง 2.37 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน
ผลสำรวจคาดไว้ว่า อินโดนีเซียจะมียอดเกินดุลการค้า 2.3 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. หลังจากที่เกินดุลการค้า 2.19 พันล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
การส่งออกในเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 58.76% แตะที่ 1.66 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2553 มากกว่าผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 57.49% ในเดือนพ.ค. และ 51.94% ในเดือนเม.ย.
ส่วนการนำเข้าอยู่ที่ 1.423 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 68.68% เมื่อเทียบรายปี มากกว่าผลสำรวจที่คาดไว้ที่ 65% ในเดือนพ.ค. และ 29.93% ในเดือนเม.ย. โดยการเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค.นั้นมากสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2553
ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ อินโดนีเซียมียอดเกินดุลการค้า 1.017 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากที่สุดในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มิ.ย. 64)
Tags: ส่งออก, สินค้าโภคภัณฑ์, อินโดนีเซีย, เศรษฐกิจอินโดนีเซีย