สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า อินโดนีเซียกำลังผลักดันกลยุทธ์การลดใช้ถ่านหินอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อกระตุ้นกระบวนการลดระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
เมื่อวันจันทร์ (23 ก.ย.) พีที พีแอลเอ็น (PT PLN) บริษัทการไฟฟ้าของรัฐบาลอินโดนีเซีย ระบุว่า อินโดนีเซียจะเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าจนถึงปี 2583 ซึ่งจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าราว 88.4 กิกะวัตต์ โดยที่ 75% ของโรงไฟฟ้าทั้งหมดจะเป็นโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานหมุนเวียน และ 25% จะเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซ
ซูโรโซ อิสนันดาร์ ผู้อำนวยด้านการบริหารจัดการความเสี่ยงของพีที พีแอลเอ็น กล่าวว่า บริษัทจะไม่เพียงปิดโรงไฟฟ้าถ่านหิน แต่จะลดการใช้ถ่านหินอย่างค่อยเป็นค่อยไป และแทนที่ด้วยพลังงานหมุนเวียนและพลังงานใหม่ สิ่งนี้เป็นความพยายามของบริษัทที่จะลดการปล่อยมลพิษในภาคการผลิตไฟฟ้าเพื่อบรรลุเป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2603
อิสนันดาร์กล่าวว่า การเลือกแนวทางการลดใช้ถ่านหินนั้นเป็นเพราะสภาพเศรษฐกิจของอินโดนีเซียเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นที่ต้องรับประกันว่าจะมีพลังงานไฟฟ้าเพียงพอเมื่อความต้องการเพิ่มขึ้น พร้อมเสริมว่าแนวทางดังกล่าวถูกนำไปใช้กับโรงไฟฟ้า 4 แห่งในชิเลกอน จังหวัดบันเตินแล้ว
“สำหรับในอนาคตข้างหน้า โรงไฟฟ้า 75% ของเราจะใช้พลังงานหมุนเวียน” อิสนันดาร์กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ย. 67)
Tags: XINHUA, คาร์บอนไดออกไซด์, ถ่านหิน, อินโดนีเซีย