นายอาริฟิน ตัซริฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและทรัพยากรแร่ของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า อินโดนีเซียวางแผนเพิ่มสัดส่วนการนำน้ำมันปาล์มไปผสมเป็นไบโอดีเซลที่ 40% (B40) ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ปัจจุบันจะยังคงสัดส่วนไว้ที่ 35% (B35) ตามเดิม
ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลกได้ประกาศเพิ่มสัดส่วนการผสมเป็นไบโอดีเซลจาก 30% เป็น 35% ในเดือนก.พ. อย่างไรก็ตาม สัดส่วนดังกล่าวยังไม่ได้ดำเนินการอย่างเต็มรูปแบบในบางพื้นที่
นายตัซริฟให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์นอกรอบการประชุมพลังงานเอเชีย (Energy Asia) วันนี้ (26 มิ.ย.) ว่า “ตอนนี้เรายังไม่เปลี่ยนแปลงจาก B35 จากนั้นจึงค่อยเตรียมพร้อมสำหรับ B40 และเมื่อเรารู้สึกว่าพร้อมเมื่อไร เมื่อนั้นเราจึงจะเริ่มการเปลี่ยนแปลง”
นายตัซริฟระบุว่า อินโดนีเซียต้องการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรในประเทศให้ได้มากที่สุดและลดการพึ่งพาน้ำมันดิบ และตอนนี้ทางการได้เสร็จสิ้นการวิจัยและการทดสอบบนท้องถนนของ B40 เรียบร้อยแล้ว
นายเอ็ดดี อับดูร์ราชมาน ซีอีโอของหน่วยงานกองทุนน้ำมันปาล์มดิบของอินโดนีเซียที่รับผิดชอบในการจัดหาเงินอุดหนุนไบโอดีเซล กล่าวว่า B35 ยังไม่ได้มีการบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากยังมีโรงงานผสมบางแห่งที่ต้องการการอัปเกรด
ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ กำลังพยายามผลักดันให้มีการผลิต B35 อย่างเต็มรูปแบบภายในวันที่ 1 ส.ค.
นายเอดี วิโบโว เจ้าหน้าที่กระทรวงพลังงานระบุว่า การบริโภคไบโอดีเซลจนถึงวันที่ 25 มิ.ย. อยู่ที่ 5.2 ล้านกิโลลิตร จากทั้งหมด 13.15 ล้านกิโลลิตรที่จัดสรรไว้สำหรับปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 มิ.ย. 66)
Tags: น้ำมันปาล์ม, อินโดนีเซีย, ไบโอดีเซล