หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์รายงานในวันนี้ (27 ก.ย.) โดยอ้างแหล่งข่าววงในว่า อินเทล (Intel) และรัฐบาลสหรัฐฯ น่าจะสรุปข้อตกลงการให้เงินทุนสนับสนุนโดยตรงแก่อินเทลเป็นจำนวน 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐได้ภายในสิ้นปีนี้
รายงานระบุว่า ถึงแม้การเจรจาเรื่องเงินทุนสนับสนุนจะอยู่ในขั้นตอนท้าย ๆ แล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรยืนยันได้ว่าจะสรุปผลได้ก่อนสิ้นปี 2567 และหากมีการเข้าซื้อกิจการอินเทลทั้งหมดหรือบางส่วน ก็อาจทำให้การเจรจาต้องสะดุดลงได้
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้อนุมัติเงินให้อินเทลเกือบ 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในรูปแบบของเงินช่วยเหลือและเงินกู้ตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมให้บริษัทผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศ
ข้อตกลงเบื้องต้นระหว่างอินเทลกับรัฐบาลสหรัฐฯ คือการให้เงินสนับสนุนอินเทลในรัฐแอริโซนา เป็นเงินช่วยเหลือ 8.5 พันล้านดอลลาร์ และเงินกู้สูงสุด 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเงินทุนส่วนหนึ่งจะนำไปสร้างโรงงานใหม่ 2 แห่ง และปรับปรุงโรงงานเดิมที่มีอยู่แล้วให้ทันสมัย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า ควอลคอมม์ (Qualcomm) ได้ติดต่ออินเทล เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าซื้อกิจการอินเทล ซึ่งกำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้
อนึ่ง อินเทลเคยเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการผลิตชิป แต่กลับเสียความได้เปรียบด้านการผลิตให้กับคู่แข่งอย่างไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง คอมพานี (TSMC) และไม่สามารถผลิตชิปตอบสนองความต้องการของตลาดเทคโนโลยีเจเนอเรทีฟเอไอ (Generative AI) ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งอินวิเดีย (Nvidia) และเอเอ็มดี (AMD) ได้คว้าโอกาสนี้ไปแล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ก.ย. 67)