อินเดียสั่งห้ามส่งออกข้าวขาวที่ไม่ใช่พันธุ์บาสมาติ (Basmati) โดยให้มีผลบังคับใช้ทันทีเมื่อวานนี้ (20 ก.ค.) เพื่อควบคุมราคาอาหารที่อยู่ในระดับสูงและรับประกันว่าจะมีปริมาณข้าวเพียงพอภายในประเทศ
กระทรวงกิจการผู้บริโภคของอินเดียระบุว่า การสั่งห้ามครั้งนี้จะช่วยรับประกันปริมาณข้าวขาวที่ไม่ใช่ข้าวบาสมาติให้เพียงพอในอินเดีย และช่วยสกัดการเพิ่มขึ้นของราคาข้าวภายในประเทศด้วย
ทั้งนี้ อินเดียเป็นผู้ส่งออกข้าวชั้นนำของโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของการค้าข้าวทั่วโลก และเป็นผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ที่สุดอันดับสองรองจากจีน
นักวิเคราะห์เปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า การห้ามส่งออกข้าวในสัปดาห์นี้อาจส่งผลให้ราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นไปอีก หลังจากได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้จากการที่อินเดียห้ามส่งออกข้าวหักในเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมา
นางอีฟ แบร์ นักเศรษฐศาสตร์อาเซียนจากโคเฟซ (Coface) ซึ่งเป็นบริษัทประกันสินเชื่อการค้ากล่าวว่า “อุปทานข้าวทั่วโลกจะตึงตัวอย่างมาก… เนื่องจากอินเดียเป็นผู้ผลิตข้าวอันดับสองของโลก”
นางแบร์กล่าวเพิ่มเติมว่า บังกลาเทศและเนปาลจะได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการห้ามส่งออกข้าวของอินเดีย เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นจุดหมายปลายทางการส่งออกอันดับต้น ๆ
นอกจากนี้ โกร อินเทลลิเจนซ์ (Gro Intelligence) ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ด้านการเกษตรคาดการณ์ไว้ว่า การห้ามส่งออกข้าวของอินเดียอาจทำให้ความไม่มั่นคงด้านอาหารของประเทศต่าง ๆ ที่ต้องพึ่งพาข้าวอย่างมากนั้น ทวีความรุนแรงขึ้น
นักวิเคราะห์ของโกร อินเทลลิเจนซ์ระบุว่า “ตลาดส่งออกชั้นนำสำหรับข้าวอินเดียได้แก่ บังกลาเทศ, จีน, เบนิน และเนปาล ขณะที่ประเทศในแอฟริกาอื่น ๆ ก็นำเข้าข้าวอินเดียจำนวนมากด้วยเช่นกัน”
กระทรวงกิจการผู้บริโภคระบุว่า ข้าวขาวที่ไม่ใช่พันธุ์บาสมาตินั้น คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 25% ของการส่งออกข้าวของอินเดีย
ด้านนางราธิกา ราว นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารดีบีเอสกล่าวว่า ผู้นำเข้าที่ได้รับผลกระทบอาจหันไปหาซัพพลายเออร์ทางเลือกอื่น ๆ ในภูมิภาคแทน เช่น ไทย และเวียดนาม
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ก.ค. 66)
Tags: ข้าวขาว, พันธุ์บาสมาติ, ราคาอาหาร, ห้ามส่งออก, อินเดีย