สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานในวันนี้ว่า อัตราว่างงานเดือนก.ค.ของออสเตรเลียปรับตัวลงสู่ระดับ 4.6% เนื่องจากมีประชาชนจำนวนน้อยลงที่หางานทำในช่วงที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์เมืองซิดนีย์และเมลเบิร์นเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ อัตราว่างงานเดือนก.ค.ปรับตัวลงจากระดับ 4.9% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราว่างงานของออสเตรเลียจะพุ่งขึ้นเนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ทำให้ภาคธุรกิจขาดความเชื่อมั่น
ส่วนตัวเลขการจ้างงานในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 2,000 ตำแหน่ง ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะลดลงเกือบ 50,000 ตำแหน่ง
อย่างไรก็ดี คาดว่าตลาดแรงงานของออสเตรเลียจะอ่อนแอลงในเดือนส.ค. เนื่องจากมีการขยายเวลาล็อกดาวน์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์และเมืองเมลเบิร์นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียจะชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาส 3
ออสเตรเลียซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศที่คุมโควิด-19 ได้ดีที่สุด กำลังเผชิญปัญหาในการควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 ระลอก 3 ที่เกิดจากสายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดได้ง่าย แม้ว่าจะมีการใช้คำสั่งล็อกดาวน์กับประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศก็ตาม ขณะที่มีประชาชนวัยผู้ใหญ่ได้รับวัคซีนครบโดสเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ส.ค. 64)
Tags: ซิดนีย์, ล็อกดาวน์, หางาน, ออสเตรเลีย, อัตราว่างงาน, เมลเบิร์น