สถาบันเพื่อการศึกษาการคลัง (IFS) เปิดเผยว่า แรงงานในอังกฤษเสี่ยงเผชิญปัญหาด้านบำนาญในอนาคต
ทั้งนี้ รายงานดังกล่าวได้สรุป “อุปสรรค” ที่คนรุ่นใหม่ในอนาคตต้องเผชิญและเสนอว่า ระบบทั้งหมดจำเป็นต้องได้รับการพิจารณาใหม่อีกครั้ง
ข้อมูลระบุว่า ชาวอังกฤษเกือบ 90% ไม่ได้ออมเงินไว้สำหรับกองทุนบำนาญมากพอ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วควรจะอยู่ที่ราว 15% ของรายรับ โดยประชาชนผู้มีรายได้น้อยมีความเสี่ยงเป็นพิเศษ เนื่องจากพวกเขาอาจมีคุณสมบัติไม่ตรงตามข้อกำหนดสำหรับการลงทะเบียนหักเงินสมทบบำนาญโดยอัตโนมัติ
รายงานเผยว่า “มีเพียง 44% ของผู้ที่มีรายได้ 5,000-10,000 ปอนด์ (6,200-12,500 ดอลลาร์) ต่อปีเท่านั้นที่ได้เข้าร่วมโครงการบำนาญในปี 2562” เมื่อเทียบกับ 87% ของผู้ที่มีรายได้ปานกลาง (25,000-30,000 ปอนด์) และ 92% ของผู้ที่มีรายได้มากกว่า 50,000 ปอนด์ขึ้นไป
ทั้งนี้ เงินบำนาญส่วนใหญ่จะถูกเก็บไว้ในระบบบำนาญแบบกำหนดเงินสมทบ (defined contribution program) ซึ่งจำนวนสุดท้ายของเงินดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่เจ้าของได้สมทบมาตลอดชีวิตและความสำเร็จในการลงทุน ขณะที่อีกทางเลือกหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมน้อยกว่าคือ ระบบบำนาญแบบกำหนดผลประโยชน์ทดแทน (defined benefit system) ซึ่งผู้รับบำนาญจะได้รับรายได้หลังเกษียณตามเงินเดือนสุดท้ายและจำนวนปีที่ทำงานให้แก่นายจ้าง
รายงานระบุว่า ผู้คนเริ่มเกษียณอายุด้วยระบบบำนาญแบบกำหนดเงินสมทบมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีความยืดหยุ่นมากกว่า แต่ก็ทำให้เจ้าของเงินต้องรับผิดชอบในการจัดการการเงินและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องด้วยตนเอง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 เม.ย. 66)
Tags: IFS, สถาบันเพื่อการศึกษาการคลัง, อังกฤษ, แรงงาน