ออสเตรเลียประกาศเตือนภัยด้านสุขภาพเร่งด่วนในวันนี้ (3 ก.ค.) หลังมีรายงานพบผู้ป่วยโรคหัดรายใหม่ในรัฐวิกตอเรีย
สำนักงานสาธารณสุขรัฐวิกตอเรียยืนยันว่า ผู้ป่วยรายล่าสุดเดินทางกลับจากต่างประเทศ และได้เดินทางไปตามสถานที่สาธารณะหลายแห่งในรัฐวิกตอเรียขณะติดเชื้อ
ผู้ป่วยรายนี้เดินทางจากสิงคโปร์มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติเมลเบิร์นเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ก่อนที่จะเดินทางไปยังเมืองโคแลค เมืองวาร์นัมบูล และเมืองพอร์ตแคมป์เบลล์ โดยไปตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด โรงแรม และร้านค้าหลายแห่ง
“มีรายงานผู้ป่วยโรคหัด 11 รายในรัฐวิกตอเรีย นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 จนถึงปัจจุบัน” สำนักงานสาธารณสุขรัฐวิกตอเรียระบุ
นอกจากนี้ สำนักงานสาธารณสุขรัฐวิกตอเรียได้แจ้งเตือนประชาชนถึงความเสี่ยงในการสัมผัสโรคหัดจากการเดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากมีรายงานการแพร่ระบาดของโรคหัดทั้งในเอเชีย แอฟริกา ยุโรป ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา
“ผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศหรือไปยังสถานที่ที่ระบุไว้ข้างต้น และยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดไม่ครบ ควรจัดอยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังเป็นพิเศษ” พร้อมเรียกร้องให้ผู้ที่มีอาการของโรคหัดเข้ารับการตรวจหาเชื้อโดยเร็ว
ทั้งนี้ โรคหัดเป็นโรคติดต่อร้ายแรง และอาจนำไปสู่อาการแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม สมองอักเสบ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออกมาประกาศเตือนถึงภัยคุกคามจากโรคหัดที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ก.ค. 67)
Tags: วิกตอเรีย, สุขภาพ, ออสเตรเลีย, โรคหัด