สถาบันเวสแพค-เมลเบิร์น อินสทิทิวต์เปิดเผยในวันนี้ (13 มิ.ย.) ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของออสเตรเลียยังคงอยู่ในระดับต่ำในเดือนมิ.ย. หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนนี้ โดยผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะตกงาน ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต
รายงานระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 79.2 ในเดือนมิ.ย.จากเดือนพ.ค. โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่า 100 บ่งชี้ว่า จำนวนผู้บริโภคที่มีมุมมองในด้านลบต่อเศรษฐกิจนั้น มีมากกว่าจำนวนผู้บริโภคที่มีมุมมองเป็นบวกอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม มีการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดในตัวเลขค่าความเชื่อมั่นก่อนและหลัง RBI จะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในวันที่ 6 มิ.ย. โดยค่าความเชื่อมั่นจาก 89.0 ก่อนการปรับขึ้นดอกเบี้ย ลดลงเป็น 72.6 หลังการปรับขึ้น
นายบิล อีแวนส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเวสต์แพคกล่าวว่า “ในขณะที่ผลสำรวจโดยรวมแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นมีการเปลี่ยนแปลงสุทธิเพียงเล็กน้อย แต่คำตอบที่รวบรวมได้ในช่วงสัปดาห์ที่มีการสำรวจพบว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีผลกระทบอย่างมาก”
“สิ่งที่น่ากังวลที่สุดคือความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอาชีพการงาน ซึ่งเคยเป็นจุดที่ดีอย่างเดียวท่ามกลางความมืดมนในการสำรวจผู้บริโภคในปีที่แล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจุดที่ดีดังกล่าวกำลังจางหายไปอย่างรวดเร็ว”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 มิ.ย. 66)
Tags: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ธนาคารกลางออสเตรเลีย, ออสเตรเลีย, อัตราดอกเบี้ย