ชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 นำโดยศาสตราจารย์พิเศษ จรัญ ภักดีธนากุล ส่งหนังสือเปิดผนึกคัดค้านการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ถึงประธานรัฐสภาและสมาชิกรัฐสภา พร้อมหยิบยกเหตุผล 6 ประการที่ไม่สมควรที่จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว ได้แก่
1.ร่างกฎหมายนี้ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะเร่งรีบพิจารณา เพราะไม่ปรากฏในนโยบายการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย และนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่หาเสียงไว้กับประชาชนในการเลือกตั้งทั่วไป แต่เป็นเรื่องที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้แสดงวิสัยทัศน์ไว้ที่เนชั่นทีวี และรัฐบาลไปรับมาบรรจุในนโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
2.การกระทำทั้งหมดที่เกี่ยวกับร่างกฎหมายนี้เป็นการกระทำที่มาจากนโยบายที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 65, พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ของชาติ พ.ศ.2560 และประกาศพระบรมราชโองการเรื่อง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (2661-2580 ลงวันที่ 6 ต.ค.61 ในส่วนสำคัญที่ระบุว่า “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งการเสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีดังกล่าว ซึ่งตราบใดที่ยังไม่มีการทบทวนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในรอบทุก 5 ปีเสียก่อน การกระทำใดของคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และหน่วยงานของรัฐทุกหน่วย ย่อมต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่ได้ประกาศไว้แล้ว
ดังนั้นการกำหนดนโยบายของรัฐบาลก็ดี การเสนอร่างกฎหมายนี้ต่อรัฐสภาก็ดี และการหยิบยกร่างกฎหมายนี้ขึ้นพิจารณาในรัฐสภาก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 65 และมาตรา 75 และ พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ของชาติ พ.ศ.2560 มาตรา 5 มาตรา 6 มาตรา 8 และมาตรา 11 ตามที่อ้างถึง ซึ่งจะส่งผลให้บรรดาผู้กระทำต้องตกเป็นผู้กระทำการใช้อำนาจอธิปไตยอันไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญและกฎหมาย และอาจต้องรับผลจากการกระทำของตนด้วยบทบัญญัติอันเกี่ยวกับมาตรฐานทางจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญ
3.ร่างกฎหมายนี้ส่งผลกระทบต่อความคงอยู่และการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินของรัฐอย่างมากมาย เพราะมีการนำที่ดินของรัฐที่หน่วยงานของรัฐครอบครองใช้ประโยชน์ไปให้เอกชนจัดทำสถานบันเทิงครบวงจรโดยไม่ปรากฏการตอบแทนที่คุ้มค่า เท่ากับเป็นการแปลงและนำทรัพย์สินของรัฐไปแปลงให้กับเอกชนใช้ประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยหลักการของกฎหมายเกี่ยวกับการใช้สอยทรัพย์สินของรัฐ โดยขัดหรือแย้งกับหน้าที่ของรัฐในการดูแล
4.การเสนอร่างกฎหมายนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของชาติและปัญหาปากท้องของประชาชนได้ แต่กลับเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนมาเฟียการพนันต่างชาติเพียงบางกลุ่ม โดยที่ประเทศไทยจะได้รับความสูญเสียและมีความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ อาจมีอาชญากรรม และกระทบต่อสังคมทุกระดับอย่างมากมายเป็นเวลายาวนาน ร่างกฎหมายนี้จึงเป็นเรื่องที่เอื้อต่อผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มทุนมาเฟียการพนันบางกลุ่มให้ได้รับประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงเป็นร่างกฎหมายที่ไม่ชอบด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 75 วรรคหนึ่งและวรรคท้าย
5.ร่างกฎหมายนี้เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงอบายมุขที่จะเกิดขึ้นในสถานบันเทิงครบวงจร และการพนันออนไลน์ที่จะมีการพยายามทำให้ถูกกฎหมายแอบแฝงอยู่กับบ่อนกาสิโนให้มีการเล่นที่แพร่หลายจนไม่อาจควบคุมได้ ทั้งอาจทำให้เยาวชนของชาติเข้าไปมัวเมาในการพนันหลากหลายรูปแบบจนทำให้เสียผู้เสียคนอันอาจส่งผลให้ต้องก่ออาชญากรรมและการค้ามนุษย์เกิดขึ้นขึ้นได้อย่างง่ายดาย อันจะทำให้เยาวชนเหล่านั้นกลายเป็นพลเมืองที่ด้อยคุณภาพของประเทศชาติ นำไปสู่ความวิบัติของบ้านเมืองในอนาคตอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
6.ร่างกฎหมายนี้ไม่มีมาตรการใด ๆ ในการคุ้มครองป้องกันมิให้ประชาชนในชาติมีภูมิคุ้มกันต่ออบายมุขในรูปแบบต่าง ๆ ของสถานประกอบการธุรกิจบันเทิงครบวงจรได้ อันจะนำพาประเทศไปสู่ความวิบัติได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ถือว่าเรืองดังกล่าวเป็นการการกระทำที่ไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลที่ดีตามหลักการของรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่เคยมีมาในราชอาณาจักรไทย เป็นการดำเนินการตามนโยบายที่ขัดแย้งต่อพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ของชาติ พ.ศ.2560 เป็นการกระทำที่ขาดจริยธรรม ไร้ศีลธรรมและคุณธรรมที่นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยพึงมีและต้องรับผิดชอบต่อประชาชน บิดเบือนการใช้อำนาจอธิปไตยที่ได้รับมาจากการเลือกตั้งของประชาชน โดยมุ่งหวังเพียงเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องโดยไม่ฟังการเรียกร้องและการปฏิเสธของสังคมที่ปฏิเสธการตรากฎหมายฉบับนี้ อันเป็นการกระทำที่ขัดแย้งกับคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 161 และข้ออ้างของตนที่ให้ไว้กับประชาชนตามที่อ้างตัวเองว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ชมรมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 จึงขอเรียกร้องต่อสมาชิกรัฐสภา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยทางนิติบัญญัติของปวงชนชาวไทย ควรพิจารณาทำหน้าที่สมาชิกรัฐสภาให้เป็นไปตามหลักนิติธรรม และตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ด้วยการมีมติไม่รับหลักการของร่าง พ.ร.บ.การประกอบการธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อประโยชน์โดยรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม อันจะนำไปสู่สันสู่สันติสุขของสังคมประเทศอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 เม.ย. 68)
Tags: กาสิโน, จรัญ ภักดีธนากุล, สสร.