นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อดีตรมว.คลัง กล่าวถึงกรณี รมว.คลังมีแนวคิดในการกู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ ว่า ขอให้ประชาชนคัดค้านการก่อหนี้เพิ่มถ้าหากไม่สร้างประโยชน์อย่างแท้จริง
“หนี้ที่รัฐบาลกู้ 10.69 ล้านล้านบาทหารด้วยจำนวนคนไทย 66 ล้านคน เป็นภาระต่อคนละกว่า 160,000 บาทอยู่แล้ว ขอให้ประชาชนคัดค้านการก่อหนี้เพิ่ม ถ้าหากไม่สร้างประโยชน์อย่างแท้จริง” นายธีระชัย กล่าว
โดยแนะนำให้ประชาชนจับตารัฐบาลใน 5 เรื่อง คือ
1.รัฐบาลควรลดการกู้เพื่อแจกอุดหนุนอุปโภคบริโภค เพราะถึงแม้จะทำให้จีดีพีสูงขึ้นบ้างแต่เป็นเพียงชั่วคราว การใช้กระสุนแบบนี้ไม่เพิ่มประสิทธิภาพของประเทศ จึงจะไม่ช่วยเพิ่มรายได้อนาคตที่จะเอามาใช้คืนหนี้ ดังเห็นได้ว่าโครงการแจกเงินหมื่นที่ใช้งบประมาณไปแล้วถึง 1.75 แสนล้านบาท ก็ได้ผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยมาก และไม่เกิดแรงส่งที่ยั่งยืน
2.เงินที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องเกลี่ยจากงบประมาณให้เต็มที่ก่อน โดยรัฐบาลจะต้องเด็ดขาดในการตัดลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นหรือไม่เร่งด่วน จะต้องแสดงผลงานด้านนี้ให้ประชาชนเห็นก่อน
3.สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) เป็นเรื่องปลายทาง แต่กระทรวงการคลังควรเร่งหารือกับแบงค์ชาติในเรื่องต้นทาง 4 เรื่องก่อน
– ด้านผ่อนคลายนโยบายการเงิน
– ด้านเพิ่มการแข่งขันในระบบสถาบันการเงิน
– ด้านการปรับโครงสร้างหนี้ที่จริงจังโดยให้สถาบันการเงินต้องควักกำไรสะสมเข้ามารับภาระมากขึ้น
– ด้านการบีบลดกำไรส่วนต่างดอกเบี้ยของสถาบันการเงิน
4.รัฐบาลควรประกาศยกเลิกการแจกเงินหมื่นเฟส 3 ทันที เพราะสถานการณ์โลกข้างหน้ามีหลายความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง จึงควรเก็บกระสุนการคลังเอาไว้เพื่อใช้ยามจำเป็น
5.รัฐบาลควรปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้มีศักยภาพสูงขึ้น ทั้งด้านการศึกษาของเยาวชน การช่วยให้ผู้ใหญ่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ การเพิ่มทักษะของแรงงาน และการจับมือกับประเทศภูมิภาคเพื่อเร่งการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
“ประชาชนควรจับตาว่า ท่ามกลางวิกฤตภาษีสหรัฐ รัฐบาลนี้จะพยายามขายฝัน เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส แต่แทนที่จะเป็นโอกาสสำหรับพี่น้องไทย กลับจะเป็นโอกาสเพื่อนายทุนพรรคมากกว่าหรือไม่” นายธีระชัย กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 เม.ย. 68)
Tags: กระตุ้นเศรษฐกิจ, กู้เงิน, ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล, รัฐบาล, เงินหมื่นเฟส 3