บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงกว่าคาดในไตรมาส 3 ปีงบการเงิน 2568 ของบริษัท ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 4 ที่สูงเกินคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจของอินวิเดียยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อุปสงค์ชิปประมวลผล AI ของบริษัทก็ยังคงอยู่ในระดับสูง
อินวิเดียเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 ของปีงบการเงิน 2568 อยู่ที่ 81 เซนต์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ของแอลเอสอีจี (LSEG) คาดการณ์ไว้ที่ 75 เซนต์ และรายได้โดยรวมอยู่ที่ 3.508 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 3.316 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นอินวิเดียร่วงลง 2% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วงเช้าวันนี้ (21 พ.ย.) เนื่องจากรายได้รวมของอินวิเดียในไตรมาส 3 ปรับตัวขึ้น 94% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากสามไตรมาสก่อนหน้านี้ที่มีการขยายตัวสูงถึง 122%, 262% และ 265% ตามลำดับ
ส่วนรายได้จากธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) ซึ่งรวมถึงธุรกิจชิปประมวลผล AI นั้น เพิ่มขึ้น 112% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ระดับ 3.08 หมื่นล้านดอลลาร์ และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 2.882 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นแตะระดับ 73.5% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เล็กน้อย
สำหรับในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2568 นั้น อินวิเดียคาดการณ์ว่ารายได้จะอยู่ที่ 3.75 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.708 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่ารายได้ในไตรมาส 4 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 70% แต่ก็ชะลอตัวลงจากไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2567 ที่รายได้ของบริษัทขยายตัวแข็งแกร่งถึง 265%
เจนเซน หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของอินวิเดีย กล่าวว่า ลูกค้าหลายรายของอินวิเดีย ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ (Microsoft) ออราเคิล (Oracle) และโอเพนเอไอ (OpenAI) เริ่มได้รับการส่งมอบชิปแบล็คเวลล์ (Blackwell) ซึ่งเป็นชิป AI รุ่นใหม่แล้ว พร้อมระบุว่า อินเดียกำลังดำเนินการผลิตชิปแบล็คเวลล์อย่างเต็มศักยภาพ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 พ.ย. 67)