หุ้นไทยแนวโน้มเช้าไซด์เวย์ชะลอลง เล็งขายลดเสี่ยงช่วงรอประชุมหลายธนาคารกลาง

นักวิเคราะห์ฯ คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ชะลอลง จากแรงขายลดความเสี่ยงหลังรีบาวด์เกินครึ่งทาง-เข้าหยุดยาว ท่ามกลางการเฝ้ารอติดตามการประชุมหลายธนาคารกลาง ทั้งเฟด-BoE-BOJ-ECB ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่บวกราว 0.1-0.2% พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625 จุด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ลักษณะชะลอตัว จากแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงหลังจากรีบาวด์ขึ้นมาเกินครึ่งทางแล้ว และจะเข้าวันหยุดยาวอีกครั้ง รวมถึงรอติดตามการประชุมหลายธนาคารกลางในสัปดาห์หน้า ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางยุโรป (ECB)

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ราว 0.1-0.2% โดยวันนี้รอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อจีน และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ และพรุ่งนี้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,610-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,754.75 จุด เพิ่มขึ้น 35.32 จุด (+0.10%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,701.21 จุด เพิ่มขึ้น 14.46 จุด (+0.31%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,786.99 จุด เพิ่มขึ้น 100.07 จุด (+0.64%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 33.30 จุด หรือ -0.12%, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 171.54 จุด หรือ +0.71% และดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.59 จุด หรือ +0.10%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ธ.ค.)1,618.36 จุด เพิ่มขึ้น 9.08 จุด (+0.56%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,434.14 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.64
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 ธ.ค.) ปิดที่ระดับ 72.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ธ.ค.) อยู่ที่ 5.06 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.39 แข็งค่าตามภูมิภาค คาดกรอบวันนี้ 33.30-33.55
  • กกร.คงเป้าเศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัว 0.5-1.5% ส่วนปี 65 ขยายตัว 3-4.5% คาด 65 ขยายตัว 3-5% แต่ “โอมิครอน” ใกล้ชิด หวั่นเป็นความเสี่ยงใหม่ ด้านหอการค้าไทย-จีนมอง Q1/65 ศก.ไทยเริ่มฟื้น ส่วนจุรินทร์เผย ค้าชายแดนและผ่านแดน 10 เดือน ทำได้มูลค่า 860,436 ล้านบาท เพิ่ม 37.41% ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีแล้ว
  • ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ คาดตลาดอสังหาฯ ปี 65 มีแววฟื้น ลุ้นมาตรการสนับสนุนจากรัฐ หลังเผชิญวิกฤตโควิด-19 ที่รุนแรง “ซิซซากรุ๊ป” ปลื้มอสังหาฯ ภูเก็ตเริ่มฟื้นตัวหลังรัฐบาลเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เผยสถานการณ์ท่องเที่ยววันหยุดยาววันรัฐธรรมนูญ 10-12 ธ.ค. แม้พบสายพันธุ์โอมิครอนในไทย แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมมากเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในระลอกก่อน ทำให้ในช่วงวันหยุดยาวนี้จะมีชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ 1.84 ล้านคน/ครั้ง ใช้จ่าย 5,720 ล้านบาท อัตราเข้าพักเฉลี่ย 40% ประเมินบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวเริ่มคึกคักจากเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวหลายพื้นที่ สภาพอากาศเริ่มหนาวเย็น ผนวกกับมาตรการผ่อนคลาย การเปิดประเทศ และมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยวที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการเดินทางและการใช้จ่ายในพื้นที่ท่องเที่ยว
  • นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้หารือและพิจารณาร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเกี่ยวกับเรื่องเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ซึ่งพบข้อกังวลด้านเพดานดอกเบี้ยรถยนต์ใช้แล้วหรือรถเก่า และรถจักรยานยนต์ รวมถึงเงื่อนไขในการคืนรถจบหนี้ โดยในร่างกำหนดให้คิดดอกเบี้ยไม่เกิน 20% ที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นรอบที่สอง ในวันที่ 16 ธ.ค.นี้ อาจทำให้ได้รับผลกระทบทั้งผู้ปล่อยสินเชื่อ ผู้บริโภค ผู้ผลิตและผู้ขาย จึงจะทำหนังสือถึงนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอหารือในเรื่องนี้ด้วย
  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ระบุว่า ของขวัญที่ภาคเอกชนอยากให้ภาครัฐต่ออายุมาตรการคนละครึ่ง เฟส 4 เริ่มเดือน ม.ค.65 อีก 1,500 บาท หลังจากคนละครึ่งเฟส 3 จะสิ้นสุด ธ.ค.นี้ รวมทั้งฟื้นมาตรการช้อปดีมีคืนกลับมาอีกครั้ง เนื่องจากเป็นมาตรการที่ได้รับความนิยมสามารถกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้

หุ้นเด่นวันนี้

  • OTO-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.วันทูวัน คอนแทคส์(OTO)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 279,998,669 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 3.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (1 ธันวาคม 2564) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 พ.ค. 2566 วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 29 พ.ย. 2567
  • ASK (กรุงศรี)”ซื้อ”เป้า IAA Consensus 47.50 บาท ฐานกำไรทยอยยกขึ้นในทุกไตรมาส อานิสงส์จากธุรกิจออนไลน์ที่ขยายตัวหนุนดีมานด์รถบรรทุกพุ่งขณะที่ซัพพลายมีไม่พอส่งผลให้ราคารถใหม่และเก่าเพิ่มเป็นบวกกับ ASK โดยตรง
  • TACC (ฟินันเซีย ไซรัส) “ซื้อ”เป้า 9.50 บาท คาดกำไร Q4/64 ฟื้นแข็งแกร่งต่อเนื่องหลังคลาย Lockdown การออกสินค้าใหม่ รวมถึงธุรกิจ Charactor ฟื้นตัวหลังลูกค้ากลับมาเชื่อมั่นและเริ่มทำกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มขึ้น คาดกำไรทั้งปี 2564 +9% Y-Y ด้านผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 2565 โต 10-15% สูงกว่าประมาณการจากสินค้าใหม่และผลิตภัณฑ์กัญชงใน Q2/65 การเติบโตคู่กับ 7-11 ในต่างประเทศ รวมถึงการขยายฐานลูกค้า Non 7-11 โดยคาดกำไรปี 2565 +21% Y-Y พร้อมให้แนวรับ 7.70-7.60 ถัดไป 7.35 บาท แนวต้าน 8-8.20 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ธ.ค. 64)

Tags: ,