หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงต่อหลัง “ทรัมป์” เดินหน้ารีดภาษีแคนาดา-เม็กซิโก ราคาน้ำมันปรับลง

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีปรับตัวลง ตาม Sentiment ตลาดหุ้นต่างประเทศ ถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง และความกังวลสหรัฐจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกในอัตรา 25% ตามแผนในวันนี้ รวมถึงภาษีเพิ่มเติม 10% กับจีน และยังถูกกดดันจาก ISMรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐแย่กว่าคาด เพิ่มความกังวลในเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น

ขณะที่ในประเทศเมื่อวานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนแอกว่าคาด เนื่องจากการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ส่วนใหญ่ต่ำกว่าคาด ทำให้อยู่ในช่วงของการปรับกำไรต่อหุ้น (EPS)

ทั้งนี้วานนี้หลุดแนวรับ 1,200 จุด ปิดตลาดทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 5 ปี ในทางเทคนิคมีโอกาสดัชนีปรับตัวลงต่อ

ให้กรอบแนวรับ 1,180-1,185 จุด แนวรับถัดไป 1,140-1,150 จุด และแนวต้าน 1,210-1,215 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (3 มี.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,191.24 จุด ลดลง 649.67 จุด หรือ -1.48%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,849.72 จุด ลดลง 104.78 จุด หรือ -1.76% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,350.19 จุด ลดลง 497.09 จุด หรือ -2.64%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 37,532.01 จุด ลดลง 253.46 จุด หรือ -0.67% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 22,678.25 จุด ลดลง 328.02 จุด หรือ -1.43% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,300.50 จุด ลดลง 16.43 จุด หรือ -0.50%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 มี.ค.) 1,188.41 จุด ลดลง 15.31 จุด (-1.27%) มูลค่าซื้อขาย 45,046.70 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (3 มี.ค.) 1,547.76 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.(3 มี.ค.) ลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.99% ปิดที่ 68.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 มี.ค.) อยู่ที่ 5.37 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.91 กลับมาแข็งค่า หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐแย่กว่าคาดฉุดดอลลาร์อ่อน

– นายกฯ “อิ๊งค์” โพสต์ข้อความผ่าน X เผย รมว.คลัง รายงานแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อผลักดันจีดีพีปีนี้โต 3.5% แล้วเตรียมหารือ กกร. ก่อนจัดทำแผนภายใน 2 สัปดาห์ ขณะที่วิจัยกรุงศรีฯ หวังเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 2.7% กังวลบริโภคภาคเอกชนและรายได้ภาคเกษตรชะลอลงต่อเนื่อง

– สัญญาณเตือนโมเดลใหม่ทุนจีน บุกไทย จดทะเบียนในสิงคโปร์ก่อนเข้ามาลงทุนในไทย หวังเลี่ยงถูกสหรัฐเก็บภาษีกีดกันการค้า พบยอดขอบีโอไอพุ่งขึ้นอันดับ 1 ปีที่แล้ว 3.5 แสนล้าน แห่ลงทุนดิจิทัล ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ ท่องเที่ยว สศช.แนะวางกลไกให้บริษัทไทยถือหุ้นใหญ่ “หอการค้า” ห่วงจุดแข็งสิงคโปร์เสริมความชำนาญธุรกิจ

– คลังรื้อ “พ.ร.บ.กาสิโน” ฉบับกฤษฎีกา โละทิ้งเงื่อนไขต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท กำหนดใหม่ต้องยื่นแบบชำระภาษีย้อนหลัง 3 ปี เร่งชง ครม.เร็วที่สุด “คปท-ศปปส.-กองทัพธรรม” นำมวลชนพร้อมรายชื่อกว่า 1 แสนชื่อ ยื่นหนังสือ นายกฯ-ครม. ค้าน “กาสิโน-พนันออนไลน์” ย้ำเป็น “อบายมุข” มอมเมาประชาชน ไม่สร้างความเข้มแข็งประเทศ

– “ชวินดา หาญรัตนกูล” นายกสมาคมบลจ. และผู้จัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ลั่น! วายุภักษ์ฯ พร้อมเร่งลงทุนหุ้นไทย ย้ำ นำเงินที่พักไว้ในบอนด์ลงทุนหุ้นได้ทันที เผยพอร์ตลงทุนหุ้นเน้นพื้นฐานแกร่ง-ปันผลเด่น ยัน Coverage Ratio ยังสูงถึง 3 เท่า สวนกระแสข่าวลือ ชี้ ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสโต ดึงนักลงทุนกลับได้ ด้าน “เอเซีย พลัส” ระบุหากรัฐบาลโยกเงินกองทุน LTF มูลค่า 1.88 แสนล้านบาท เป็นกองทุน Thai ESG X ให้สิทธิลดหย่อนภาษี 5 แสนบาท ลุ้นหนุนดัชนีฟื้นได้ 20% ส่วนนายกฯ หารือรมว.คลังเกี่ยวกับความคืบหน้าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ

– “พิชัย” รองนายกฯ และ รมว.คลังย้ำ “สมชัย สัจจพงษ์” เป็นประธานบอร์ด ธปท. มั่นใจทำงานได้ดี ด้าน “จุลพันธ์” รมช.คลังย้ำแก้เกณฑ์คนไทยเข้าเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ต้องมีเงินฝากถึง 50 ล้านเข้าได้ แค่จ่ายภาษีต่อเนื่อง

หุ้นเด่นวันนี้

– TLI (กสิกรไทย) ราคาเป้าหมาย 13.80 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TLI ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาวจากการใช้มาตรฐานบัญชี TFRS 17 ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการแข่งขันด้านราคา เนื่องจากบริษัทประกันต้องบันทึกผลขาดทุนจากผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรต่ำ ทำให้บริษัทต่าง ๆ หันมาเน้นเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงขึ้นTLI ตั้งเป้าให้มูลค่าธุรกิจใหม่ (VONB) เติบโตในระดับเลขสองหลักในปี 2568 ด้วยกลยุทธ์การขยายช่องทางการขายและเน้นขายผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง เช่น ประกันคุ้มครองและประกันสุขภาพ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ผลประกอบการอาจถูกกดดันจากความต้องการประกันสะสมทรัพย์และผลกระทบจากดอกเบี้ยที่ลดลง แต่ TLI ยังมีโอกาสชดเชยได้ด้วยยอดขายของสินค้าที่เน้นอัตรากำไรสูง โดยรวมเรามองว่าการปรับกลยุทธ์และสภาพการแข่งขันที่ลดลงจะช่วยสนับสนุนศักยภาพการเติบโตในระยะยาว และยังเป็นโอกาสในการลงทุนสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม

– CPF (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 30.00 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 4/67 อยู่ที่ 4,173 ลบ.(+3,346%YoY, -42.91%QoQ,) โดย QoQ มีปัจจัยกดดันกำไรจาก รายการขาดทุนจากการด้อยค่าราว -2,467 ลบ.(ไก่จีน/สัตว์น้ำเวียดนาม) ซึ่งหากตัดปัจจัยดังกล่าวออกไป การดำเนินงานยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี รายได้และ GPM มีแรงหนุนจากราคาสุกรในไทยและเวียดนามที่ประคองตัวในโซนทำกำไรต่อจาก ไตรมาส 3/67 และปรับตัวดีขึ้นชัดเจน YoYประกอบกับต้นทุนอาหารสัตว์บกยังไม่สูง ส่งผลให้ GPM ไตรมาสนี้อยู่ที่ 15.67% +646bsp YoY +29 bspQoQ ด้านส่วนของ Equity Income ยังมีแรงหนุนจาก CPALL สำหรับแนวโน้มกำไรช่วงถัดไป ไตรมาส 1/68 เราคาดว่าจะยังอยู่ในเกณฑ์ดีหนุนด้วยราคาสุกร โดยเดือนก.พ.68 ราคาสุกรไทยอยู่ที่ 79.00 บาท/กก.(+16%YoY, +4%MoM)

– BH (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 230.00 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันกลับมาซื้อขายที่บริเวณ PE 20 เท่า คิดเป็นระดับ PE-1.0 SD ซึ่งถือเป็นระดับ Valuation ที่น่าสนใจในระยะกลาง ยังมีจุดเด่นด้านการรักษาโรคยากซับซ้อน และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ขณะที่ภาพระยะกลางจะเพิ่ม Capacity ที่ภูเก็ต (ปลายปี 2026) รองรับการเติบโตที่มากยิ่งขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 มี.ค. 68)

Tags: , , ,