หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์กรอบจำกัด แม้คลายกังวล “ทรัมป์” ไม่เร่งขึ้นภาษีนำเข้า

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวไซด์เวย์กรอยจำกัด แม้ยังมีปัจจัยหนุน Sentiment ของตลาดหุ้นไทยอยู่บ้าง จากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะใช้มาตรการกีดกันทางการค้าโดยการขึ้นภาษีนำเข้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ตลาดมีความคลายกังวลกับประเด็นดังกล่าว

ขณะที่ยังคงมีปัจจัยหนุนจากหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ ที่ได้รับอานิสงส์จากการประกาศลงทุน AI ของประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจจะเข้ามาช่รยหนุนตลาดหุ้นไทยได้

แต่มองว่าการปรับตัวขึ้นยังอยู่ในกรอบจำกัด โดยที่ยังคงต้องติดตามการรายงานผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนที่กำลังทยอยออกมา หลังกลุ่มแบงก์รายงานออกมาดี ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้าวันนี้เปิดมาส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก

โดยให้แนวต้าน 1,370 จุด แนวรับ 1,350 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (22 ม.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,156.73 จุด เพิ่มขึ้น 130.92 จุด หรือ +0.30%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,086.37 จุด เพิ่มขึ้น 37.13 จุด หรือ +0.61% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 20,009.34 จุด เพิ่มขึ้น 252.56 จุด หรือ +1.28%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,810.06 จุด เพิ่มขึ้น 163.81 จุด หรือ +0.41% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 19,881.32 จุด เพิ่มขึ้น 102.55 จุด หรือ +0.51% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,237.60 จุด เพิ่มขึ้น 23.98 จุด หรือ +0.74%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 ม.ค.) ที่ 1,361.77 จุด เพิ่มขึ้น 9.24 จุด (+0.68%) มูลค่าการซื้อขาย 43,955.35 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (22 ม.ค.) 1,667.99 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.(22 ม.ค.) ลดลง 39 เซนต์ หรือ 0.51% ปิดที่ 75.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 ม.ค.) อยู่ที่ 0.37 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.87/88 อ่อนค่าจากวานนี้ ตลาดจับตา “ทรัมป์” กล่าวสุนทรพจน์เวที WEF

– ครม.ไฟเขียวพ.ร.บ.การท่าเรือฯ ฉบับใหม่ เปิดทางกทท.ตั้งบริษัทลูกลุย Entertainment Complex พัฒนาอสังหาริมทรัพย์พร้อมพื้นที่เชิงพาณิชย์ ท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่, Retail Mixed use, อาคารสำนักงาน, พื้นที่พาณิชย์ Duty Free, โรงแรม, พื้นที่พาณิชยกรรม, ศูนย์ฝึกอบรม, พื้นที่ศูนย์อาคารแสดงสินค้า, Sport Complex

– คลังจ่อชงกฎหมายไฟแนนเชียลฮับ เข้าครม.ต้นเดือนกุมภาพันธ์ดันไทยเป็นศูนย์กลางการเงินในภูมิภาค เปิดกว้างดึง 8 ธุรกิจการเงิน ให้สิทธิประโยชน์มากกว่ากฎหมาย EEC

– “จุลพันธ์” รมช.คลัง เผยโครงการแจกหมื่นกลุ่มสูงอายุพร้อมแจกเงินทั่วประเทศ 27 ม.ค.นี้ ส่วนกลุ่มไม่มีโทรศัพท์มือถือยังไม่เปิดให้ลงทะเบียน จับตานโยบายสหรัฐฯ แจงยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการพิเศษใดเพิ่มเติม มั่นใจปลายปี 68 ได้เห็นเมืองภูเก็ตประเดิมใช้บิตคอยน์ที่แรก

– เปิดมาตรการควบคุมฝุ่น PM2.5 ปี 2568 กรมควบคุมมลพิษตั้งเป้าลดพื้นที่ป่า เผาไหม้ลง 25% ลดเผาพื้นที่เกษตร 10-30% “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ประเมินปัญหาเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล 1 เดือน กระทบเศรษฐกิจ 3-6 พันล้านบาท ส.อ.ท.ห่วงผลกระทบเศรษฐกิจ 4 ด้าน “หอการค้า” ชี้ท่องเที่ยวหนักสุด ลุ้น พ.ร.บ.อากาศสะอาด แก้ปัญหาระยะยาว คาดผ่านสภา เม.ย.นี้

– บอร์ด กสทช.เห็นชอบหลักการใช้ไบโอเมตริกซ์ยืนยันตัวตนเพื่อซื้อซิมมือถือใหม่ดัดหลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปลอมบัตรประชาชน ใบต่างด้าว แต่ระบบพิสูจน์ตัวตนไม่ได้มาตรฐานตรวจจับความจริงไม่ได้ รวมทั้งกำหนดให้คนต่างด้าวทำงานในไทยซื้อซิมได้คนละ 3 ซิมต่อคนต่อค่าย และให้ใช้พาสปอร์ตในการลงทะเบียนเท่านั้น ส่วนนักท่องเที่ยวให้ใช้งานไม่เกิน 7 วัน หากต้องการขยายระยะเวลาทำได้ไม่เกิน 60 วัน

หุ้นเด่นวันนี้

– GULF (เคจีไอ) เป้าพื้นฐาน 70 บาท 1) มุมมองด้านเทคนิค ประมินรูปแบบราคาเริ่มสร้างฐาน มีโอกาสฟื้นตัว ประเมินแนวรับ 59.5 บาท / แนวต้าน 61.5 – 62.5 บาท กรณีฟื้นตัวผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินแนวต้านถัดไป +/- 65 บาท (Stop loss 58.5 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/67 โตเด่น และโตต่อในปี 2568 ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/67 มีโอกาสทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้ง ทั้งจากธุรกิจโรงไฟฟ้าและธุรกิจสื่อสารที่เข้า High season 3) ประเมิน Sentiment บวก ภาครัฐฯผลักดันการใช้คริปโต เราประเมินนโยบายการผลักดันให้ใช้คริปโตในประเทศไทย โดยจะเริ่มที่ จ.ภูเก็ต เร็วๆนี้ หนุน Sentiment บวกต่อธุรกิจ Binance TH

– ERW (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 5.15 บาท การดำเนินงานปกติในช่วงไตรมาส 4/67 ยังมีปัจจัยบวกตามฤดูกาล(จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 4Q67 +17%YoY +10%QoQ) และม.กระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ รวมถึงการ renovate โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา ที่เสร็จสิ้น ซึ่งทาง ERW* คาดไตรมาส 4/67 จะมี Occ. Rate ที่ 80% และ ARR ที่ +8-10%QoQ, +5-7%YoY นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มโรงแรมยังมี sentiment บวกจากจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วง 13-19 ม.ค.67 ที่ผ่านมา +1%WoW,+ 15%YoY หนุนด้วยนักท่องเที่ยวจีน ปัจจุบัน ตลาดคาด Adj. EPS ปี67 และ 68 ของ ERW* ที่ 0.18 บ./หุ้น( +13%YoY) และ 0.19 บ./หุ้น(+4%YoY)

– AMATA (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 33.50 บาท Backlog อยู่ในระดับสูง ผสานกับยอดขายปี 2024 ที่คาดจะทำได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้กำไรไตรมาส 4/67 จะอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง และดีกว่าตลาดคาด ส่วนปี 2568 คาดยังเติบโตได้ดี ตามการลงทุนที่มากขึ้น ผสานกับโอกาสรับอานิสงส์การย้ายฐานการผลิต ซึ่งถือเป็น Upside เพิ่มเติม

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 68)

Tags: , , ,