หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ตามภูมิภาค ดอลลาร์แข็งค่ากดดัน จับตางบบจ.

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกสลับลบ รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่ามากสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อวานนี้ออกมาแข็งแกร่ง โดยยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 19,000 ราย สู่ระดับ 241,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบ 3 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 262,000 ราย ประกอบกับยูโรอ่อนค่าหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย ตามการคาดการณ์ของตลาด

อีกทั้งดัชนีหุ้นไทยก็ได้ปรับขึ้นมาใกล้แนวต้านทางจิตวิทยา 1,500 จุดแล้ว และนักลงทุนยังคงรอดูการทยอยเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย หลังวานนี้ธนาคารกรุงเทพ (BBL) งบออกมาดี รวมถึงรอดูการเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2567 ของจีนวันนี้ ตลาดคาดลดลงมาที่ 4.5% จากเดิม 4.7%

ให้แนวรับ 1,485 จุด และแนวต้าน 1,500 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (17 ต.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,239.05 จุด เพิ่มขึ้น 161.35 จุด หรือ +0.37%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,841.47 จุด ลดลง 1.00 จุด หรือ -0.02% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,373.61 จุด เพิ่มขึ้น 6.53 จุด หรือ +0.04%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 39,092.47 จุด เพิ่มขึ้น 181.28 จุด หรือ +0.47% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 20,106.65 จุด เพิ่มขึ้น 27.55 จุด หรือ +0.14% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,165.97 จุด ลดลง 3.41 จุด หรือ -0.11%, ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.42% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ทรงตัว

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (17 ต.ค.) ที่ 1,495.02 จุด เพิ่มขึ้น 10.01 จุด (+0.67%) มูลค่าซื้อขาย 60,376.05 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ (17 ต.ค.) ที่ 2,555.10 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 70.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (17 ต.ค.67) อยู่ที่ 3.15 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 33.18 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าสวนทางภูมิภาคตามราคาทองโลกนิวไฮ ให้กรอบวันนี้ 33.10-33.35 บาท/ดอลลาร์

– “คลัง” จ่อชง ครม. ออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ ต่อเนื่อง จัดสินเชื่อ “ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง” บ้านและ คอนโด ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรวม 55,000 ล้านบาท จีนปล่อยมาตรการอุ้มอสังหาฯ อีก 19 ล้านล้านบาท ตลาดทุนไม่ตอบสนองชี้มาตรการไม่ดึงดูดมากพอ

– “พีระพันธุ์” ลั่นพร้อมอุ้มราคาดีเซล 33 บาท/ลิตรถึงสิ้นปี จับตาสถานการณ์สงครามต่อเนื่อง เผยพีดีพีฉบับใหม่ ยังเปิดรับฟังความเห็นฟันธงเสร็จทันปีนี้ แจงกองทุนน้ำมันติดลบต่ำกว่าแสน

– “บล.บัวหลวง” มองหุ้นไทย ไตรมาส 4 ปีนี้ยังไปต่อ ขานรับสารพัดปัจจัยในประเทศหนุน ดัชนีฯ สิ้นปีนี้แตะ 1,500 จุด แม้ยังเผชิญความท้าทาย จับตาสหรัฐเศรษฐกิจถดถอย-ผลเลือกตั้ง ประธานาธิบดีฯ แนะลงทุนกลุ่ม ได้ประโยชน์มาตรการศก.รัฐ-ดอกเบี้ยขาลง-ท่องเที่ยว-ย้ายฐานผลิต “บล.อินโนเวสท์ เอกซ์” ย้ำหุ้นไทยยังเสน่ห์ ลุ้นปรับเป้าดัชนีสิ้นมากกว่าที่คาดไว้ 1,550 จุด

หุ้นเด่นวันนี้

– SIRI (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 2.06 บาท เรามีมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการของ SIRI ใน 3Q67 เนื่องจากยอดขายคอนโดมิเนียมยังคงเติบโตแข็งแกร่ง แม้ไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ โดยบริษัทสามารถจัดการโครงการที่มีอยู่และการโอนคอนโดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ยอดขายและผลกำไรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ SIRI ยังได้ประโยชน์จากการที่ กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะช่วยลดภาระการผ่อนชำระของผู้ซื้อ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้นและจากสถิติที่ผ่านมาหุ้นในกลุ่มอสังหาฯ มักจะสร้างผลตอบแทนได้โดดเด่นหลัง กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้มาตรการกระตุ้น ซื้อ -แต่ง-ซ่อม-สร้างของภาครัฐยังเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมอีกด้วย แนะนำซื้อ โดยมีราคาพื้นฐานที่ 2.06 บาท

– BBL (ฟินันเซียไซรัส) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 184 บาท ประกาศกำไร 3Q67 ออกมาดีกว่าคาดราว 8% อยู่ที่ 1.25 หมื่นล้านบาท +7% q-q, +10% y-y โดย PPOP ใกล้เคียงกับที่ราคาด รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย รวมถึงกำไรจาก FVTPL ปรับตัวขึ้นแรงและช่วยชดเชยค่าใช้จ่าย ดำเนินงานที่ขยับขึ้นได้ ด้าน NIM ออกมาดีกว่าคาด ส่วน Credit Cost ปรับลงและต่ำกว่าคาด ขณะที่ NPL ยังขยับขึ้นเป็น 3.94% แต่ยังอยู่ใน Guidance และจัดการได้ เรายังคงคาดการณ์กำไรปี 67-69 +3.7% CAGR โดยจุดเด่นของ BBL ยังอยู่คงเป็นเรื่องการได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจและภาคการลงทุนของไทยที่ทยอยฟื้นตัว รวมถึง Valuation ยังเทรดต่ำมาก PBV 0.53 เท่า และให้ Dividend Yield ราว 5% ต่อปี

– CPALL (พาย) แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 79.00 บาท รายได้จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (CVS) มาจากกลุ่มอาหาร คิดเป็นสัดส่วน 76.3% ในไตรมาส 2/67 เพิ่มจาก 75.2% ในไตรมาส 1/67 และใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 ต.ค. 67)

Tags: , ,