หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ ไร้ปัจจัยใหม่ รอลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวไซด์เวย์ โดยที่ยังเป็นภาพของการแกว่งพักตัวเพื่อรอปัจจัยใหม่ หลังจากที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก ทำให้อัพไซด์เริ่มจำกัด ประกอบกับการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็ว อาจทำให้มีความกังวลต่อผลกระทบของเศรษฐกิจ

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เพิ่มเติม ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมออกมาอย่างไรบ้าง ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เปิดมาเช้านี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยให้แนวต้าน 1,455 จุด แนวรับ 1,440 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (23 ก.ย.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 42,124.65 จุด เพิ่มขึ้น 61.29 จุด หรือ +0.15%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,718.57 จุด เพิ่มขึ้น 16.02 จุด หรือ +0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,974.27 จุด เพิ่มขึ้น 25.95 จุด หรือ +0.14%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 2,770.75 จุด เพิ่มขึ้น 21.83 จุด หรือ +0.79% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 18,573.92 จุด เพิ่มขึ้น 326.81 จุด หรือ +1.79% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,171.36 จุด เพิ่มขึ้น 447.45 จุด หรือ +1.19%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (23 ก.ย.) ที่ 1,447.90 จุด ลดลง 3.79 จุด (-0.26%) มูลค่าซื้อขายราว 50,673.11 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ (23 ก.ย.) 391.41 ล้านบาท

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย. ลดลง 63 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 70.37 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (23 ก.ย.67) อยู่ที่ 3.13 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 32.94/33.05 จับตาท่าทีแบงก์ชาติหลังเอกชนกดดันลดดอกเบี้ย-ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

– “กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง” ชูผลตอบรับรอบแรกดีมานด์ล้น “ยอดจองซื้อ” มากกว่ามูลค่าที่ต้องการระดมทุนสูงสุดที่ 1.5 แสนล้าน แตะที่ 1.9 แสนล้าน ล่าสุด ประกาศจำนวนหน่วยลงทุนเสนอขายสุดท้ายที่ 15,000 ล้านหน่วย “บล.อินโนเวสท์ เอกซ์” คาดยอดจอง เต็มจำนวนดัน 3 แสนล้าน ช่วยลดดาวน์ไซด์ หนุนความเชื่อมั่นระยะ 10 ปีข้างหน้า

– แบงก์ชาติ” เผยมี 5 รายยื่นคำขออนุญาตตั้งธนาคารไร้สาขา คาดประกาศรายชื่อผู้ได้รับความเห็นชอบจากคลังได้กลางปี 2568 ก่อนเปิดดำเนินการภายใน 1 ปี

– ส.อ.ท.ผนึกกำลัง สสว. ผลักดันเอสเอ็มอี ซอฟต์พาวเวอร์ทั่วไทย ชู 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย สร้างรายได้ 180 ล้านบาท ปั้นผู้ประ กอบการต่อยอดสำเร็จ 100 ราย

หุ้นเด่นวันนี้

– CPALL (กสิกรไทย) แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานที่ 79.20 บาท เราคาดการณ์ CPALL จะรายงานผลประกอบการใน 3Q67 ได้อย่างแข็งแกร่งหลัง SSSG QTD เป็นบวกในช่วง 2-3% อีกทั้งคาดว่า CPALL จะสามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นได้จากการการปรับ product mix ในอนาคต นอกจากนี้เรายังมองว่า CPALLLL อาจจะได้รับประโยชน์ทางอ้อม จากมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท ให้แก่กลุ่มเปราะบางกลุ่มแรกเริ่มในช่วง 25 กันยายนนี้ ทั้งจากลูกค้าที่มาซื้อสินค้าที่ 7-11 หรือ ลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าจาก Makro และ Lotus

– BBL (ฟินันเซียไซรัส) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 184 บาท เราคาดว่า BBL จะเป็นหนึ่งในธนาคารที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการลงทุนรอบใหม่ตามภาวะเศรษฐกิจที่เร่งตัวจากนโยบายของรัฐบาล รวมถึงงบประมาณที่ไม่ล่าช้าเหมือนปีก่อน และเราคาดว่ากนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือน ต.ค. จุดเด่นของ BBL คือ Valuation ที่ยังถูกมาก ปัจจุบันเทรด PBV เพียง 0.5 เท่า ต่ำสุดในกลุ่มธนาคาร และให้ Dividend Yield 4.7-4.9% ต่อปี

– AOT (พาย) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 64.00 บาท กำไรสุทธิปี 68 อยู่ที่ 22,780 ล้านบาท (+17%YoY) โดยการเติบโตดังกล่าวได้รับผลดีจากจำนวนผู้โดยสารที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาถึงระดับ 139 ล้านคน จากระดับ 120 ล้านคนในปี 67 ขณะที่ผลประกอบการงวด FY3Q67 มีกำไรสุทธิ 4,563 ล้านบาท (+45%YoY) เพิ่มตามจำนวนผู้โดยสารที่มี 28.9 ล้านคน (+16%YoY)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ก.ย. 67)

Tags: , , ,