หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ รับบอนด์ยีลด์ปรับลง-บาทแข็งหนุน แต่น้ำมันลงกดดัน

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ แม้ว่าจะยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ 2 ครั้งในปีนี้ โดยเพิ่มน้ำหนัก 100% ว่าจะลดครั้งแรกในเดือนก.ย. ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) แตะระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 3 เดือน ขณะที่เงินบาทแข็งค่าหลุดระดับ 36 บาท/ดอลลาร์ ภาพรวมน่าจะเป็น Sentiment ที่ดีให้กับตลาดหุ้น

อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงต่อเนื่อง อาจกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดวันนี้ รวมทั้งเหตุการณ์พบผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติในโรงแรมดัง อาจกระทบกับหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยว

โดยให้กรอบแนวรับ 1,320 จุด แนวรับถัดไป 1,310-1,315 จุด และแนวต้าน 1,330 – 1,335 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (16 ก.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,954.48 จุด เพิ่มขึ้น 742.76 จุด หรือ +1.85%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,667.20 จุด เพิ่มขึ้น 35.98 จุด หรือ +0.64% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,509.34 จุด เพิ่มขึ้น 36.77 จุด หรือ +0.20%

– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 41,416.18 จุด เพิ่มขึ้น 141.1 จุด หรือ +0.34%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 17,741.77 จุด เพิ่มขึ้น 13.79 จุด หรือ +0.08% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 2,970.81 จุด ลดลง 5.49 จุด หรือ -0.18%

– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (16 ก.ค.) 1,321.31 จุด ลดลง 6.12 จุด (-0.46%) มูลค่าการซื้อขาย 36,070.72 ล้านบาท

– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 176.30 ล้านบาท (16 ก.ค.)

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. (16 ก.ค.) ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 80.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (16 ก.ค.) อยู่ที่ 4.41 เหรียญ/บาร์เรล

– เงินบาทเปิด 35.94 แข็งค่าในรอบ 2 เดือน คาดกรอบวันนี้ 35.90-36.15 จับตาราคาทอง-ตัวเลขศก.สหรัฐ

– ครม.อนุมัติสัญญารถไฟฟ้า สายสีส้ม จบประมูลลากยาว 4 ปี ท่ามกลางการฟ้องร้อง 9 คดี เจอข้อกล่าวหาฮั้วประมูล แก้เกณฑ์ประมูล “สุริยะ” นัดลงนามสัญญา BEM 18 ก.ค.นี้ คว้างานโยธาฝั่งตะวันตก พร้อมเดินรถทั้งเส้น เร่งเปิดบริการช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี ม.ค.71 เจรจาร่วม นโยบาย 20 บาท “คลัง” ห่วงความคุ้มค่าหลังรัฐอุดหนุนเงินเอกชน สศช.แนะเร่งเปิดบริการฝั่งตะวันออก

– นักลงทุนผวาไล่เทขายหน่วยลงทุนโยงอีเอ “บลจ.แอสเซท พลัส” รับแรงขายทะลักกระทบเกณฑ์ต้อง ปิดกองทุนและประกาศคำนวณขายคืนหน่วยลงทุนใหม่ วงในคาดเกิดจากลงทุนตราสารหนี้อีเอมากกว่า 7% เทียบกับ บลจ.อื่นลงทุนไม่เกิน 1-2% เชื่อไม่เกิด ฟันด์รันไปบลจ.อื่น ด้าน “ไทยบีเอ็มเอ” จับตาแผนการชำระคืน “หุ้นกู้” ของ “อีเอ” เดือนส.ค.และก.ย. วงเงิน 5.5 พันล้าน

– กองทุนประเภท Passive Fund ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ต่างๆ พร้อมปรับพอร์ตลดสัดส่วนการถือหุ้น EA ยอมรับขายออกไม่ได้ทั้งหมด เหตุหุ้นยังคำนวณในดัชนี SET50 หวั่นผิดกฎลงทุนสำนักงาน ก.ล.ต. ด้าน AIMC นัดประชุมสมาชิกฯ ด่วน เล็งใช้ไม้แข็ง หากเกิดกรณีแบบนี้อีกต้องสามารถถอดหุ้นออกจากพอร์ตได้ 100%

– สำนักงาน กขค.กางเทรนด์นโยบายดูแลการแข่งขันโลก ติดใจต้นเหตุภาวะ เงินเฟ้อพุ่ง เจาะลึกฟู้ดคอมเพาเดชั่น-การค้าดิจิทัล ในไทยจับตาควบรวมธุรกิจอสังหาฯกลับมาพีคอีกครั้ง แก้เกมซัพพลายล้น-เลี่ยงภาษี

– ททท.กางแผนการตลาดปี 68 เตรียมดันรายได้เติบโต 7.5% สูงกว่าการเติบโตของจีดีพีประเทศ ในปี 68 ถึง 1.7 เท่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยกลับไปอยู่จุดสูงสุดอีกครั้ง โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 39 ล้านคน

– หนี้ครัวเรือนทรงตัวสูง กดยอดจดทะเบียนรถใหม่ เดือนพ.ค.67 ร่วง 13.29% รถกระบะลดฮวบ 36.8% ด้านสยามอินเตอร์การประมูลชี้ รถยึดปี 67 เข้าลานประมูลทะลัก 3 แสนคัน จากปกติ 2-2.5 แสนคัน แถมจะต่อเนื่องไปอีก 4 ปี จากรถ EV ดัมป์ราคาสู้

หุ้นเด่นวันนี้

– INTUCH (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 84.37 บาท จากข่าวคณะกรรมการ INTUCH อนุมัติการเข้าทำธุรกรรมการควบบริษัท เพื่อการปรับโครงสร้างการถือหุ้น ซึ่งประกอบด้วยการควบบริษัท การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ADVANC และ THCOM รวมถึงการจ่ายเงินปันผลพิเศษ 4.5 บาทต่อหุ้น เรามีมุมมองเชิงบวกต่อข้อเสนอนี้ พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้น 5.3% มาอยู่ที่ 84.37 บาท

– GULF (กรุงศรี) ราคาเป้าหมาย 45.50 บาท US Bond Yield และ TH Bond Yield ปรับตัวลดลงต่อเนื่องดีกับ ขณะที่เงินบาทแข็งค่าหลุดแนวรับ 36 บาทช่วงเช้าวันนี้ มองเป็นแรงหนุนเพิ่มเติมในทางบวก คงมุมมองกำไรปกติ ไตรมาส 2/67 โต y-y ได้แรงหนุนจากการ COD โรงไฟฟ้า IPP ใหม่อย่าง GPD และ หินกอง รวมถึงอัตรากำไรขายไฟลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) ฟื้นจากต้นทุนก๊าซฯที่ลดลง ส่วนการโต q-q หนุนจาก GPD และ หินกอง unit ใหม่ผลิตเต็มไตรมาส, โรงไฟฟ้า Jackson กลับมาขายไฟปกติ และโรง SPP อัตรากำไรเพิ่ม จากต้นทุนก๊าซฯลดลงและโอกาสได้เงินคืนส่วนต่างราคาก๊าซ

– BEM (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 10.60 บาท แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/67 ปรับตัวขึ้น QoQ, YoY แม้ว่าธุรกิจจะเข้าช่วง Low Season ทำให้จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าและปริมาณรถใช้ทางด่วน -QoQ, +YoY แต่กำไรของบริษัทจะมีตัวช่วยหนุนจากเงินบันผลของ CKP และ TTW ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/67 คาดกำไรปรับตัวขึ้นต่อจากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่สูงขึ้น เพราะเป็นช่วงเปิดภาคเรียน และ BEM จะปรับขึ้นค่าโดยสารสายสีน้ำเงินเฉลี่ย 1 บาท/เที่ยว ตั้งแต่ 3 ก.ค.67 รวมถึงจะมีเงินปันผลจาก TTW เข้ามาอีกก้อนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีประเด็นบวกจาก ครม.เห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสีส้มแล้วจะนัดเซ็นสัญญา 18 ก.ค.67 ขณะที่การลงทุนทางด่วน Double Deck แลกกับการขยายสัมปทานคาดมีความชัดเจนในปีนี้ ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 3.85 พันล้านบาท +11%YoY และ 4.25 พันล้านบาท +10%YoY ราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัวจาก Short Sell ลดลง และการประกาศซื้อหุ้นคืนช่วย limit downside

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ค. 67)

Tags: , , ,