ข่าว
หุ้นไทยแนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์ ไร้ปัจจัยใหม่-รอเงินเฟ้อไทย จับตาโหวตนายกฯ
ก.ค.
นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์รอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อไทย และยังไร้ปัจจัยใหม่ภายนอก ส่วนปัจจัยการเมืองหลังผ่านการโหวตประธานสภาฯไปแล้วยังรอติดตามโหวตนายกฯต่อ อีกทั้งอาจจะมีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่างบฯออกมาดีเข้ามาช่วยหนุน โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ พร้อมให้แนวต้าน 1,525-1,530 จุด แนวรับ 1,500-1,505 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์เพื่อรอดูรายงานตัวเลขเงินเฟ้อไทยในวันนี้ อีกทั้งยังไร้ปัจจัยใหม่จากภายนอก
ขณะที่ปัจจัยการเมืองในประเทศหลังผ่านการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ยังต้องติดตามการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีต่อ แต่อาจจะมีแรงหนุนเข้ามาในการเก็งกำไรหุ้นคาดว่ามีผลการดำเนินงานดีเข้ามาช่วยหนุน โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเปิดมาเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบ
โดยให้แนวต้าน 1,525-1,530 จุด แนวรับ 1,500-1,505 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันอังคารที่ 4 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐ
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,355.06 จุด ลดลง 60.62 จุด หรือ -0.31% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,240.05 จุด ลดลง 5.30 จุด หรือ -0.16% และดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 33,165.06 จุด ลดลง 257.46 จุด หรือ -0.77%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (4 ก.ค..66) 1,515.31 จุด เพิ่มขึ้น 8.47 จุด (+0.56%) มูลค่าซื้อขาย 44,294.35 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 294.89 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ก.ค.66
– ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวันอังคารที่ 4 ก.ค.เนื่องในวันชาติสหรัฐ
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (4 ก.ค.)อยู่ที่ 4.54 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 34.88 การเมืองในประเทศ-เม็ดเงินไหลเข้าหนุน จับตาตัวเลขเงินเฟ้อวันนี้
– “วันมูหะมัดนอร์” นอนมานั่งประธานสภาฯไร้คู่แข่ง ส่วนรองคนที่ 1 “ปดิพัทธ์” ชนะ “วิทยา” ไปด้วยคะแนน 312 ต่อ 105 “พิเชษฐ์” คว้าเก้าอี้รองคนที่ 2 “พิธา” โอ่ผลโหวตแสดงถึงเอกภาพพรรคร่วม 8 พรรคพร้อมโวเป็นสัญญาณที่ดีนั่งนายกฯ เพราะรุกได้ถอยเป็น! เตรียมพาเหรดดันกฎหมายเข้าสภา พร้อมเปิดให้ประชาชนเข้ามาชุมนุมในอาคารไม่ต้องตากแดดตากฝน “วันนอร์-ชลน่าน” ประสานเสียงไม่มีเรื่องแก้ไขมาตรา 112 แน่ “รทสช.” เผยเหตุท้าสู้เพราะต้องการแสดงจุดยืนปกป้องสิ่งที่รักและเทิดทูน
– เอกชนประสานเสียง “วันนอร์” นั่งประธานสภา หอการค้ามอง 8 พรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่น ย้ำยิ่งตั้งรัฐบาลเร็ว ยิ่งดีต่อเศรษฐกิจ ความเชื่อมั่น และเสถียรภาพรัฐบาล ส.อ.ท.ชี้เศรษฐกิจประเทศจะรอไม่ไหว ด้านองค์กรนายจ้างมองได้ประธานสภาเป็นบันไดขั้นแรก ทำให้มีแสงสว่างปลายอุโมงค์ ลุ้นขอชื่อ “ทีมเศรษฐกิจ” รัฐบาลใหม่ที่คนไทยยอมรับ
– “อาคม” สั่ง ก.ล.ต.-ตลท. คุมเข้มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ป้องกันสร้างบัญชีเทียม ซ้ำรอย STARK พร้อมแก้กฎหมายเอาผิดหน่วยตรวจสอบบัญชี ทั้งตัวบุคคลและบริษัท “วนรัชต์” ขอพบดีเอสไอ กล่าวโทษบุคคลทุจริต STARK เพิ่ม หลังเรียก “ชนินทร์-ศรัทธา” รับทราบข้อหา 6 และ 7 ก.ค.นี้ กลุ่มผู้เสียหายหุ้นกู้ฟ้อง บก.ปอศ. ฟันกรรมการชุดเก่า-ใหม่ ฐานทำเจ๊งยับ
– “แบงก์” เผยมาตรการ ธปท.แก้หนี้ครัวเรือนยั่งยืนต้องทำ อย่างรอบคอบ ชี้คุมอัตราดอกเบี้ยสำหรับกลุ่มเสี่ยงสูง อาจไม่เอื้อแบงก์ปล่อยกู้ ส่วนปล่อยกู้ตามความสามารถลูกหนี้ ผลักลูกหนี้ ออกนอกระบบเพิ่ม หวั่นมาตรการแก้หนี้เรื้อรัง ติดแบล็กลิสต์ลูกหนี้ กระทบลูกหนี้ประวัติเสีย เข้าถึงสินเชื่อไม่ได้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)อยู่ระหว่างการออกแนวทางแก้หนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน โดยจะมี 3 แนวทางที่เตรียม จะออกมาในปลายเดือนนี้ ก่อนจะเปิดรับฟัง ความคิดเห็น(เฮียริ่ง)ต่อไป คือเกณฑ์ Responsible Lending ที่กำหนดให้เจ้าหนี้ ปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ
– PTTEP (ลิเบอเรเตอร์) ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 165.00 บาท คาดกำไรไตรมาส 2/66 ที่ 1.91 หมื่นล้านบาท (-1%q-q, -7%y-y) ถือว่ามีทิศทางที่ดีขึ้นจากประมาณการเดิม แรงหนุนจากปริมาณการขายที่ทำได้ดีขึ้นจากคาดเดิม รวมถึงจะมีกำไรจากสัญญาป้องกันความเสี่ยงของราคาน้ำมัน และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทปรับเป้าหมายปริมาณขายทั้งปีเพิ่มขึ้นจาก 456 สู่ 460 KBOED ราคาน้ำมันดิบระยะสั้น คาดได้แรงหนุนจากซาอุดิอาระเบีย และรัสเซีย ลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคา
– SCB (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 129 บาท คาดผลประกอบการแข็งแกร่งขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ในไตรมาส 2/26 ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นช่วยขับดัน NIM ให้ดีขึ้น และ credit cost จะมีเสถียรภาพขึ้นหลังตั้งสำรองไปมากแล้วในไตรมาส 1/66 และล่าสุดน่าจะได้อานิสงค์เชิงบวกจากข่าวว่าธนาคารได้ดีลปล่อยสินเชื่อสำคัญวงเงินกว่า 2 หมื่นล้านให้กับ AWC
– ADVANC (กรุงศรี) “ซื้อ” เป้า 250 บาท การแข่งขันในธุรกิจลดลงช่วยหนุนให้ ARPU และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในไตรมาส 2/66 นอกจากนียังมีเงินปันผลจ่ายครึ่งปีสม่ำเสมอให้ Dividend yield ประมาณ 1.6-2%
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ก.ค. 66)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย