SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,536.71 จุด ลดลง 9.15 จุด (-0.59%) มูลค่าการซื้อขายราว 37,902 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงหลังเทคนิคเคิลรีบาวด์แต่ยังติดด่าน 1,550 ท่ามกลางโควิดยังหนักส่งผลหุ้นที่ได้รับผลกระทบอ่อนลงตัว ทั้งแบงก์,โรงแรม,ขนส่ง ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้แกว่งทั้งบวก-ลบหลังเฟดเล็งลดวงเงิน QE ปีนี้กดดาวโจนส์ลง แต่มองพักตัวหลังขึ้นไปมากแล้ว ส่วนบ้านเราช่วงนี้แนะหุ้นรายตัวอิงงบดี กลุ่มส่งออกรับประโยชน์บาทอ่อน อย่างกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนกลุ่มโรงพยาบาลย่อตัวเป็นโอกาสซื้อสะสม บ่ายนี้ตลาดฯคงแกว่งซึมช่วงใช้เวลาสร้างฐาน ให้แนวรับ 1,540-1,530 ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด
- ตลาดหลักทรัพย์ฯปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,536.71 จุด ลดลง 9.15 จุด (-0.59%) มูลค่าการซื้อขายราว 37,902 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยทำระดับสูงสุด 1,547.38 จุด และระดับต่ำสุด 1,535.29 จุด
นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงหลังเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์มาหลายวันและยังติดด่าน 1,550 จุด ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศไม่ดีขึ้น โดยวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อมากกว่า 2 หมื่นรายเป็นวันที่ 2 ทำให้หุ้นที่ได้รับผลกระทบกลับมาอ่อนตัวลงอีกครั้ง ทั้งกลุ่มธนาคาร, โรงแรม, ขนส่ง เป็นต้น
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน เป็นการแกว่งอย่างไร้ทิศทาง หลังนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าเฟดจะลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ภายในปีนี้ ส่วนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงมองเป็นปี 66 ทำให้ดาวโจนส์ปรับตัวลงไปบ้าง แต่ก็ไม่แปลกเพราะมองเป็นการพักตัวบ้างหลังจากขึ้นไปมากแล้ว
ส่วนตลาดบ้านเรายังขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด แม้การจัดหาวัคซีนเพิ่มได้จะทำให้ตอบรับในทางบวก ดังนั้น ช่วงนี้แนะเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัว อิงงบฯดี และมีแนวโน้มที่จะดีต่อเนื่อง ส่วนหุ้นที่เจอผลกระทบจากโควิด แม้งบฯจะออกมาดีแต่ยังน่าเป็นห่วงครึ่งปีหลัง (H2/64) จะแย่ลง อย่าง ADVANC แม้ไตรมาส 2/64 งบดีแต่การล็อกดาวน์อาจทำให้ไตรมาส 3/64 แผ่วลง
พร้อมมองหุ้นกลุ่มส่งออกน่าสนใจลงทุน ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า อย่างกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ นำโดย KCE ปรับตัวขึ้นได้ดีในวันนี้ ส่วนหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลย่อตัวลงบ้างมองเป็นโอกาสในการซื้อสะสม เพราะผู้ติดเชื้อโควิดยังสูง ทำให้ความต้องการตรวจหาเชื้อ และรักษายังมีอย่างต่อเนื่อง แนะนำ BCH, CHG เป็นต้น
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวลักษณะซึมตัว ในระหว่างใช้เวลาสร้างฐานสักพัก โดยมีแนวรับ 1,540-1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด พร้อมแนะติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเป็นหลัก และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รายวัน
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
7UP มูลค่าการซื้อขาย 2,192.86 ล้านบาท ปิดที่ 1.25 บาท ลดลง 0.53 บาท
KCE มูลค่าการซื้อขาย 1,428.60 ล้านบาท ปิดที่ 81.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,087.36 ล้านบาท ปิดที่ 57.25 บาท ลดลง 1.00 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 1,004.97 ล้านบาท ปิดที่ 79.50 บาท ลดลง 2.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 943.91 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ส.ค. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ, หุ้นไทย