ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,065.61 จุด ลดลง 8.98 จุด (-0.84%) มูลค่าซื้อขายราว 21,618 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงเปิดตลาดภาคเช้า และกลับมาปรับตัวลงต่อ โดยทำระดับต่ำสุด 1,062.54 จุด และทำจุดสูงสุด 1,080.21 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาปรับตัวลงซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย จากความกังวลสงครามการค้าหลังจากที่ประธานาธิบดีสหรัฐปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศต่าง ๆ และมีมาตรการตอบโต้จากประเทศที่ถูกขึ้นภาษี โดยเฉพาะจีนที่ตอบโต้กลับสหรัฐ และสหรัฐก็ตอบโต้กลับจีนในการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็น 104% ทำให้สงครามการค้ามีความรุนแรงขึ้น
โดยปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยที่กระทบต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น รวมทั้งกระทบต่อราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ทำให้มีแรงขายหุ้นพลังงานฉุดดัชนี ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่า ทำให้เป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้นไทย
แนวโน้มในช่วงบ่ายคาดว่าแกว่งตัวแดนลบต่อ โดยที่ยังคงต้องติดตามปัจจัยสงครามการค้าต่อเนื่อง โดยให้แนวต้าน 1,070-1,075 จุด แนวรับ 1,045-1,050 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,860.57 ล้านบาท ปิดที่ 40.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,379.56 ล้านบาท ปิดที่ 146.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,110.65 ล้านบาท ปิดที่ 115.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 842.33 ล้านบาท ปิดที่ 272.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 811.60 ล้านบาท ปิดที่ 30.25 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 เม.ย. 68)
Tags: SET, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย