หุ้นไทยปิดลบ 5.10 จุด แกว่งผันผวนตามคดีคุณสมบัติ “เศรษฐา” จับตาไทม์ไลน์เลือกนายกฯคนใหม่

SET ปิดวันนี้ 1,292.69 จุด ลดลง 5.10 จุด (-0.39%) มูลค่าซื้อขาย 53,414.91 ล้านบาท นักวิเคราะห์ ระบุตลาดหุ้นไทยช่วงเช้านี้ปรับขึ้นจากแรงเก็งกำไรคาดการณ์นายเศรษฐา ทวีสิน รอดจากคดีถอดถอนนายกฯ แต่ช่วงบ่ายร่วงแรงกว่า 15 จุดทันทีที่รู้ผลศาลรธน.มีมติเสียงข้างมากให้นายเศรษฐาสิ้นสุดความเป็นนายกฯ และคณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ จากนั้นแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวกลับมาดันให้ดัชนีเด้งกลับขึ้นมาได้บ้าง แนวโน้มพรุ่งนี้ขึ้นกับไทม์ไลน์เลือกนายกฯ คนใหม่หากทำได้เร็วเชื่อว่าผลกระทบไม่มาก ลุ้นโอกาสรีบาวด์มาที่ 1,300 จุด ส่วนแนวรับเป็นโลว์เดิม 1,270 จุด

  • SET ปิดวันนี้ที่ 1,292.69 จุด ลดลง 5.10 จุด (-0.39%) มูลค่าซื้อขาย 53,352.88 ล้านบาท

  • การซื้อขายหุ้นวันนี้แกว่งผันผวน ช่วงเช้าบวกขึ้นมาได้ แต่บ่ายพลิกร่วงหลังมีคำวินิจฉัยคดีคุณสมบัตินายกฯ และท้ายตลาดลดช่วงลบลง ดัชนีทำจุดต่ำสุด 1,280.99 จุด และทำจุดสูงสุด 1,306.88 จุด

  • ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 233 หลักทรัพย์ ลดลง 262 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 162 หลักทรัพย์

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยแกวางตัวผันผวน โดยช่วงเข้าดีดขึ้นมาจากการเก็งว่านายเศรษฐา ทวีสิน ไม่ได้หลุดจากตำแหน่ง ซึ่งจะทำให้รัฐบาลเดินหน้ากองทุนรวมวายุภักษ์ 1 การปรับเงื่อนไขกองทุน ThaiESG และการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

แต่ในช่วงบ่ายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5:4 ให้นายเศรษฐาสิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี และให้คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะด้วย ทำให้มีแรง Panic Sell ออกมากดให้ดัชนีพลิกร่วงไปลึกถึง 15 จุด

ขณะที่ตลาดคาดว่ากระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่น่าจะทำได้เร็ว และมีแรงเก็งกำไรหุ้น STEC, STPI ดีดตัวขึ้นแรง จากกระแสข่าวที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มองว่าตลาดหุ้นน่าจะตอบรับดี เพราะมีความเป็นอาวุโส มีประสบการณ์ ส่วนพรรคเพื่อไทย ก็ต้องติดตามว่าจะเสนอชื่อนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร หรือนายชัยเกษม นิติสิริหรือไม่ หากพรรคร่วมรัฐบาลยังจับมือเหนียวแน่น หรือจะดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเพื่อทำให้รัฐบาลมีเสียงเพิ่มขึ้น

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ขึ้นกับข่าวไทม์ไลน์เลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ให้แนวรับ 1,270 จุด ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดเดิมเมื่อ 5 ส.ค.(black Monday) แต่หากตั้ง ครม.ได้เร็ว นโยบายไม่เปลี่ยน ดิจิตอลวอลเล็ตยังทำได้ต่อ ตลาดก็มีโอกาสรีบาวด์ไปที่ 1,300 จุดได้

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • CPALL มูลค่าการซื้อขาย 6,630.93 ล้านบาท ปิดที่ 55.25 บาท ลดลง 2.75 บาท

  • PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,444.66 ล้านบาท ปิดที่ 33.75 บาท ลดลง 0.50 บาท

  • AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,650.77 ล้านบาท ปิดที่ 55.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

  • BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,601.62 ล้านบาท ปิดที่ 27.00 บาท ลดลง 0.75 บาท

  • GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,292.27 ล้านบาท ปิดที่ 47.00 บาท ลดลง 0.50 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ส.ค. 67)

Tags: , , , , ,