หุ้นไทยปิดลบ 3.25 จุด น้ำมันพุ่ง-ศบค.คลายล็อกหนุน แต่ FTSE Rebalance กดดัน

SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,678.51 จุด ลดลง 3.25 จุด (-0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 98,135.25 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวกรอบแคบบวกสลับลบ โดยตลาดรับปัจจัยบวกราคาน้ำมันพุ่งขึ้นหลัง IEA เตือนน้ำมันตึงตัวหลังคว่ำบาตรรัสเซีย และศบค.ปลดล็อกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยโดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR แต่ปัจจัยลบกดดันจาก FTSE rebalance ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย ทำให้มีแรงขายหุ้นใหญ่ออกมาบ้าง มองแนวโน้มสัปดาห์หน้าทิศทางยังไม่ไปไหน ให้แนวรับ 1,660 จุด แนวต้าน 1,700 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,678.51 จุด ลดลง 3.25 จุด (-0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 98,135.25 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวกรอบแคนในแดนบวกและลบสลับ โดยทำระดับสูงสุด 1,685.68 จุด และลงไประดับต่ำสุดที่ 1,677.16 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 629 หลักทรัพย์ ลดลง 1,144 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 579 หลักทรัพย์

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสและนักกลยุทธ์ บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวแคบๆ สลับบวก-ลบ ปัจจัยเชิงบวกมาจากราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ออกรายงานเตือนภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมัน ประเมินมาตรการคว่ำบาตรทำรัสเซียไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันอื่นๆ รวม 3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนเม.ย. ขณะที่คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันจะลดลงเพียง 1 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้กลุ่มพลังงานต้นน้ำและโรงกลั่นมีแรงเก็งกำไรเข้ามา

ส่วนปัจจัยในประเทศ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยโดยไม่ต้องตรวจ RT-PCR ก่อน คาดว่าจะทำให้ต่างชาติเข้ามามากขึ้น เป็นแรงหนุนหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว AOT, ERW, MINT

ขณะที่ปัจจัยลบวันนี้ FTSE rebalance ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทย ทำให้มีแรงขายหุ้นใหญ่ออกมา แม้จะคาดว่าจะลดน้ำหนักลงเพียงประมาณ 20-25 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เป็นปัจจัยกดดัน sentiment ลงทุนทำให้ตลาดไปไหนไม่ไกล โดยในวันนี้ปัจจัยไม่แรงทั้งบวกและลบ

แนวโน้มในสัปดาห์หน้า ก็คาดว่าตลาดก็ยังไปไหนไม่ไกล โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน โดยในสัปดาห์หน้า ให้แนวรับ 1,660 จุด แนวต้าน 1,700 จุด โดยในบริเวณ 1,680-1,700 จุดจะมีแรงขายทำกำไรออกมา เพื่อล็อกกำไรและเล่นรอบมากกว่า

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  •  KBANK มูลค่าการซื้อขาย 5,189.79 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
  • PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,330.47 ล้านบาท ปิดที่ 145.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
  • CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,552.32 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
  • AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,923.55 ล้านบาท ปิดที่ 65.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
  • JTS มูลค่าการซื้อขาย 2,459.79 ล้านบาท ปิดที่ 285.00 บาท ลดลง 6.00 บาท

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 มี.ค. 65)

Tags: , ,