- ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,641.47 จุด เพิ่มขึ้น 14.68 จุด (+0.90%) มูลค่าการซื้อขาย 67,593.31 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในแดนบวกตลอดวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,645.71 จุด และระดับต่ำสุด 1,632.90 จุด
- ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 888 หลักทรัพย์ ลดลง 651 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 561 หลักทรัพย์
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างดีสอดคล้องกับตลาดภูมิภาค โดยกลุ่มสื่อสารปรับตัวขึ้นมาอย่างโดดเด่นแต่ไม่เห็นประเด็นอย่างชัดเจน แต่คาดว่าอาจมาจากประเด็นการควบรวมกิจการสร้างประโยชน์ในภาพรวม หรือแม้จะไม่มีประเด็นควบรวม แต่ตลาดมองว่า ใน 1 เดือนข้างหน้าหลังเทศกาลปีใหม่มีโอกาสที่โควิดสายพันธุ์ใหม่จะรระบาด จึงมองกลุ่มสื่อสารเป็นแหล่งพักเงินลงทุน เพราะเชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และไตรมาส 4/64 ธุรกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้น
นอกจากนี้ หุ้น ADVANC มีแรงเก็งกำไรจากความคาดหวังว่าอาจมีการจ่ายเงินปันผลพิเศษ จากกำไรสะสมสูงถึง 5.3 หมื่นล้านบาทหลังจากมีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหญ่มาเป็น GULF ประเมินปันผลพิเศษอาจจะได้ 17-18 บาท/หุ้น โดยเห็นตัวอย่างจากกรณีของ SVI หรือ NOBLE เมื่อเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ใช้เงินกู้เข้ามาซื้อหุ้น ก็มีการจ่ายปันผลตามมา
นอกจากนี้ ยังมีแรงซื้อกลุ่มแบงก์ด้วย Valuation ที่ดูน่าสนใจ แต่งบไตรมาส 4/64 คาดว่าจะอ่อนแอลง และหากมีการระบาดโควิดโอมิครอน กลุ่มแบงก์ก็มีโอกาสรับผลกระทบอีกรอบใน 1-2 เดือนข้างหน้า ที่สุดจึงเลือกเข้ากลุ่มสื่อสารเพื่อป้องกันความเสี่ยงดีกว่า แต่หากมีการระบาดแล้วราคากลุ่มแบงก์ลงก็เป็นโอกาสเข้าเก็บได้
ในระยะสั้น หากเกิดการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน แต่ไม่รุนแรง ตลาดอาจไม่รับผลกระทบมากนัก ส่วนในช่วงปลายปีที่มีเทศกาลคริสต์มาสอาจทำให้วอลุ่มซื้อขายเบาบาง โอกาสที่ตลาดขึ้นแรง-ลงแรงไม่น่าจะได้เห็น ตลาดบ้านเราน่าจะแกว่งทรงตัวอิงไปทางบวก ทำให้หุ้นกลางและเล็กน่าจะกลับมาเล่นเก็งกำไรกันได้ วันพรุ่งนี้คาดว่าตลาฯ น่าจะบวกต่อได้แต่อาจไม่แรงเท่าวันนี้
ให้แนวรับที่ 1,635 จุด แนวต้านที่ 1,650 จุด
นายกิจพล ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นไทยในไตรมาส 1/65 น่าจะรับแรงกดดัน จากการระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน, งบแบงก์ออกมาน่าผิดหวัง และแรงขายกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ครบกำหนด 7 ปีครั้งแรก อย่างไรก็ดี มองว่าดัชนีน่าจะยีงเป็นบวกได้ โดยประเมินดัชนี SET ต้นปีที่ 1,740 จุด และทั้งปี 65 ให้เป้าหมายที่ 1,820 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
- ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,128.88 ล้านบาท ปิดที่ 226.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท
- WFX มูลค่าการซื้อขาย 2,730.91 ล้านบาท ปิดที่ 8.45 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
- SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,238.45 ล้านบาท ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
- EA มูลค่าการซื้อขาย 1,998.01 ล้านบาท ปิดที่ 93.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
- TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,977.81 ล้านบาท ปิดที่ 4.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.18 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ธ.ค. 64)
Tags: SET, SET Index, กิจพล ไพรไพศาลกิจ, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย