SET ปิดวันนี้ที่ 1,138.90 จุด เพิ่มขึ้น 10.24 จุด (+0.91%) มูลค่าซื้อขาย 41,227.26 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเด้งขึ้นกว่า 10 จุดโดยเฉพาะในภาคบ่าย ชดเชยช่วงวันหยุดสงกรานต์บ้านเราที่ตลาดต่างประเทศปรับขึ้นไปตอบรับสหรัฐเลื่อนปรับขึ้นภาษีสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี ทำให้ภาพตลาดบ้านเราสวนทางภูมิภาคที่ปรับลงจากแรงขายทำกำไร หุ้นกลุ่มลุ่มโรงไฟฟ้า-กลุ่มอิงเศรษฐกิจโลกขึ้นมาได้ดี ประกอบกับมีลุ้น กนง.หั่นดอกเบี้ยปลายเดือนนี้ แนวโน้มพรุ่งนี้มองตลาดมีโอกาสขึ้นไปต่อ พร้อมให้แนวต้าน 1,155 จุด แนวรับ 1,120 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดวันนี้ 1,138.90 จุด เพิ่มขึ้น 10.24 จุด (+0.91%) มูลค่าซื้อขาย 41,227.26 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีช่วงเช้าแกว่งแคบๆ ก่อนจะขึ้นมาแรงในภาคบ่าย ทำจุดสูงสุด 1,142.35 จุด และจุดต่ำสุด 1,120.72 จุด
- ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 420 หลักทรัพย์ ลดลง 108 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 133 หลักทรัพย์
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดีดขึ้นไปกว่า 10 จุด สอดคล้องกับภาพรวมตลาดโลกในช่วงต้นสัปดาห์ (14-15 เม.ย.) ที่ปรับขึ้นไปรับปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากสหรัฐยกเว้นภาษีตอบโต้สำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และชิ้นส่วนอื่นๆ เซมิคอนดักเตอร์ เป็นการชั่วคราว แต่ตลาดหุ้นไทยปิดทำการช่วงสงกรานต์วันนี้จึงขึ้นตามา ทำให้ภาพสวนทางภูมิภาคที่มีแรงขายทำกำไรออกมา
นอกจากนี้ หุ้นหลายตัวมีแรงซื้อกลับหลังจากราคาลงไปมากแล้ว อาทิ กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มอิงเศรษฐกิจโลก อาทิ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ พร้อมทั้งมองโอกาสคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมปลายเดือนเม.ย.นี้ ขณะที่มีแรงขายทำกำไรในหลายกลุ่มสลับออกมา โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ เช่น SCB , KTB ที่ขึ้น XD
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ แต่อาจจะขึ้นไปได้ไม่มาก เพราะภาพรวมการลงทุนยังอยู่ในโหมดระมัดระวังแม้จะผ่อนคลายเรื่องภาษีสหรัฐลงบ้าง แต่ยังมีภาพของสหรัฐหาแนวร่วมสกัดกั้นสินค้าจากจีน ขณะที่ไทยทำได้ลำบาก เพราะภาพเศรษฐกิจไทยอิงกับเศรษฐกิจจีนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะท่องเที่ยว และปิโตรเคมี
อีกทั้งต้องติดตามธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะทบทวนประมาณการเศรษฐกิจไทย และแม้กลุ่มธนาคาร Valuation ไม่แพง แต่ก็ยังต้องระวัง GDP ไทยที่มีโอกาสถูกปรับลงมาที่ 2% หรือต่ำกว่านั้น จะกระทบต่อการขยายตัวของสินเชื่อ ทำให้ตลาดหุ้นภาพรวมยังเป็นขาลง
พร้อมให้แนวต้าน 1,155 จุด แนวรับ 1,120 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,844.56 ล้านบาท ปิดที่ 154.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
- CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,634.97 ล้านบาท ปิดที่ 50.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,414.46 ล้านบาท ปิดที่ 66.25 บาท ลดลง 2.50 บาท
- SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,210.18 ล้านบาท ปิดที่ 113.50 บาท ลดลง 8.00 บาท
- GULF มูลค่าการซื้อขาย 1,870.52 ล้านบาท ปิดที่ 47.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 เม.ย. 68)
Tags: SET, กิจพณ ไพรไพศาลกิจ, ตลาดหุ้นไทย, หุ้นไทย