SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,616.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.48 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 93,119.73 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งลงทดสอบแนว 1,600 จุดก่อนดีดขึ้น ช่วงแรกรับแรงกดดันปัจจัยนอกประเทศกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ-ดอลลาร์แข็งค่า-ฺBond yield ขึ้น กดดันตลาดเอเชียเหนือร่วงแต่กลุ่ม TIP ยังบวกได้ ส่วนตลาดยุโรปบวกตามดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส บ้านเรารับแรงหนุนกลุ่มแบงก์ดีดกลับขึ้นมาได้ดี หลังปัจจัยในประเทศมีโมเมนตัมดีขึ้น ผลประชุม กนง.ออกมาตามคาดส่งผลเงินบาทเริ่มมีเสถียรภาพ พรุ่งนี้คาดตลาดฯแกว่งไซด์เวย์ขึ้นได้ ให้แนวรับ 1,610 แนวต้าน 1,630 จุด
- ตลาดหลักทรัพย์ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,616.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.48 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 93,119.73 ล้านบาท
- การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,622.62 จุด และระดับต่ำสุด 1,604.46 จุด
- ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 699 หลักทรัพย์ ลดลง 975 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 686 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งลงไปทดสอบแนว 1,600 จุดก่อนที่จะมีการดีดตัวขึ้น ช่วงแรกรับแรงกดดันจากปัจจัยต่างประเทศ ทั้งกังวลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐสูงยาวนานกว่าคาด และดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐปรับขึ้น เป็นแรงกดดันทำให้ตลาดหุ้นแถบเอเชียเหนือติดลบราว 1.8% แต่ตลาดกลุ่ม TIP ยังบวกได้ ส่วนตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกได้เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่บวกกว่า 100 จุดหลังดัชนีหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวลงไป
ส่วนตลาดบ้านเราได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มแบงก์ โดยเฉพาะ KBANK ดีดกลับขึ้นมาได้ดี และ BBL ก็ปรับตัวขึ้นได้ แม้ SCB จะพักตัวบ้างหลังขึ้นไปเร็ว มองว่าปัจจัยในประเทศมีโมเมนตัมดีขึ้น ส่วนผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ออกมาตามคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายด้วยคะแนนเอกฉันท์ ทำให้เงินบาทเริ่มมีเสถียรภาพขึ้นหลังจากอ่อนค่าเร็ว และมองอัตราดอกเบี้ยบ้านเราถือว่าต่ำสุดแล้ว
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ส.ค.ของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ และยุโรป ส่วนบ้านเราให้ติดตามธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ขึ้นได้หลังจากที่ดัชนีฯลงไปทดสอบ 1,600 จุด โดยให้แนวรับ 1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 8,875.62 ล้านบาท ปิดที่ 137.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 5,006.37 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 4,220.55 ล้านบาท ปิดที่ 4.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,534.76 ล้านบาท ปิดที่ 39.25 บาท ลดลง 1.25 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 3,409.43 ล้านบาท ปิดที่ 120.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ก.ย. 64)
Tags: ตลาดหุ้น, วิจิตร อารยะพิศิษฐ, หุ้นไทย