หุ้นบริษัทผลิตถุงมือมาเลเซียพุ่งตามหุ้นไทย อานิสงส์สหรัฐฯ รีดภาษีนำเข้าจีน

ราคาหุ้นบริษัทผลิตถุงมือของมาเลเซีย ซึ่งรวมถึงบริษัทท็อป โกลฟ คอร์ป (Top Glove Corp) พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงเช้าวันนี้ (17 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในเดือนนี้

หุ้นท็อป โกลฟ ทะยานขึ้น 32% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งที่สุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หุ้นฮาร์ทาเลกา โฮลดิงส์ (Hartalega Holdings) พุ่งขึ้น 30% ทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า การพุ่งขึ้นของหุ้นบริษัทผลิตถุงมือของมาเลเซีย มีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากหุ้นบริษัทผลิตถุงมือของไทยทะยานขึ้นเช่นกัน หลังจากนักวิเคราะห์ระบุว่า บริษัทผลิตถุงมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีน

ทั้งนี้ คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะทำการสรุปมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ หลังจากคณะบริหารได้เสนอให้มีการปรับขึ้นภาษีดังกล่าวในเดือนพ.ค. ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปคาดการณ์ว่า ภาษีที่จะมีการเรียกเก็บครั้งใหม่นี้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นและอาจจะมีผลบังคับใช้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ประบุว่า สหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าถุงมือทางการแพทย์จากจีนเพิ่มขึ้นเป็น 50% ในปี 2568 และเพิ่มขึ้นเป็น 100% ในปี 2569 โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากระดับ 25% ที่มีการนำเสนอในเดือนพ.ค.

โบรกเกอร์หลายรายได้พากันปรับเพิ่มคำแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นบริษัทผลิตถุงมือของมาเลเซีย เนื่องจากมาตรการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนจะทำให้ถุงมือที่ผลิตโดยมาเลเซียและจีนมีราคาใกล้เคียงกันมากขึ้น

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ก.ย. 67)

Tags: , ,