“หุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก” เปิดจองซื้อบนแอปฯ เป๋าตัง 7-13 ก.พ. ดอกเบี้ย 3.15%

บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น [BCP] ผนึก ธนาคารกรุงไทย (KTB) เสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก ครั้งที่ 1/2568 บนแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” วงเงิน 3,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.15% ต่อปี โดยให้สิทธิผู้ถือหุ้นกู้ดิจิทัลบางจากจองซื้อก่อน ลงทุนเริ่มต้นเพียง 10,000 บาท “จองก่อน ได้ก่อน” เปิดจองซื้อ 7-13 ก.พ. 68

น.ส.ภัทร์ภูรี ชินกุลกิจนิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน BCP เปิดเผยว่า บางจากฯ ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก ครั้งที่ 1/2568 ผ่านบริการซื้อขายหุ้นกู้บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” วงเงินรวม 3,000 ล้านบาท

โดยผู้ถือหุ้นกู้ดิจิทัล BCP26OA และ BCP26NB สามารถจองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 7-13 กุมภาพันธ์ 2568 ส่วนผู้ลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ในวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งสำหรับการระดมทุนครั้งนี้ บางจากฯ จะนำไปใช้ต่อยอดการดำเนินธุรกิจของบริษัทเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป

“ที่ผ่านมา บริษัทได้เสนอขายหุ้นกู้ดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้ มีความพิเศษเพิ่มขึ้นตามเสียงเรียกร้อง คือ เป็นครั้งแรกที่บริษัทได้ให้สิทธิ์แก่ผู้ถือหุ้นกู้ดิจิทัลชุดเดิม จองซื้อหุ้นกู้ได้ก่อน” น.ส.ภัทร์ภูรี กล่ว

สำหรับหุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เป็นหุ้นกู้ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้ สามารถซื้อขายแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.15% ต่อปี ระยะเวลาลงทุนเพียง 4 ปี รับดอกเบี้ยทุก 6 เดือน

โดยหุ้นกู้ดิจิทัลบางจาก ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A+ แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 สะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ภายหลังจากประสบความสำเร็จในการบูรณาการการดำเนินงานระหว่างธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและการตลาดของบริษัท ควบคู่ไปกับการขยายการดำเนินงานในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม รวมถึงประโยชน์จากการบูรณาการธุรกิจในแนวตั้งในกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียม และกระจายการลงทุนด้วย

น.ส.ภัทร์ภูรี กล่าวต่อว่า หลังจากที่บริษัทประสบผลสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของ บมจ. บางจาก ศรีราชา [BSRC] ทำให้ธุรกิจโรงกลั่นและธุรกิจการตลาดของบริษัทแข็งแกร่งขึ้น จนในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตโดยทริสเรทติ้ง จาก A เป็น A+ สูงสุดตั้งแต่บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับเครดิต ซึ่งอันดับความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้นนี้ จะช่วยตอกย้ำความมั่นใจให้นักลงทุน และทำให้หุ้นกู้ดิจิทัลบางจากจะเป็นทางเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นกู้ดิจิทัลชุดเดิมของบางจากฯ เนื่องจากบริษัทได้มอบสิทธิพิเศษให้สามารถจองซื้อได้ก่อน โดยหุ้นกู้ดิจิทัลสามารถซื้อขายแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ประกอบกับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนในจำนวนเงินเริ่มต้นเพียง 10,000 บาท ผ่านแอปฯ เป๋าตัง

ด้านนายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน KTB เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับบางจากฯ ในครั้งนี้ เป็นการต่อยอดความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์การลงทุน บนช่องทางดิจิทัลที่ทุกคนเข้าถึงได้ สะดวก และปลอดภัย พร้อมยกระดับตลาดทุนไทย โดยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้คนไทยทุกคน ในการเข้าถึงบริการด้านการเงิน และการลงทุนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำ ตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ

โดยหุ้นกู้ดิจิทัลบนแอปฯ เป๋าตัง อำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนซื้อขายได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ลงทุนจะได้รับหุ้นกู้ทันทีที่ซื้อและได้รับเงินทันทีที่ขาย ตลอดจนแสดงข้อมูลการถือครองหุ้นกู้ ราคาซื้อขาย ครบจบในที่เดียว ตอบโจทย์การออม และการลงทุนได้ครบทุกมิติ สร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับลูกค้าและประชาชนได้อย่างยั่งยืน

“เชื่อมั่นว่า หุ้นกู้ดิจิทัลบางจากในครั้งนี้ จะได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนอย่างมาก เนื่องจากเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ของธุรกิจที่มีศักยภาพ มีโอกาสเติบโต และให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ ซึ่งบางจากฯ เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจพลังงานแบบครบวงจร อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน ควบคู่กับการดูแลสังคมแ ละสิ่งแวดล้อม โดยมีความมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างยั่งยืน” นายรวินทร์ กล่าว

สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถลงทะเบียนวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปฯ “เป๋าตัง” ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยให้ผู้ถือหุ้นกู้ดิจิทัลชุดเดิมจองซื้อได้ตั้งแต่เวลา 08.30 น. วันที่ 7 ก.พ.68 และผู้ลงทุนทั่วไปสามารถจองซื้อได้ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. วันที่ 11 ก.พ.68 จนเต็มจำนวนที่เสนอขาย กำหนดจองซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท ทวีคูณครั้งละ 10,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อราย จัดสรรในรูปแบบจองซื้อก่อนมีสิทธิก่อน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 68)

Tags: , ,