หัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีนกลับมารั้งอันดับหนึ่งในตลาดสมาร์ตโฟนจีนอีกครั้งเมื่อพิจารณาจากยอดการส่งมอบสมาร์ตโฟน หลังถูกสหรัฐปราบปรามอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สมาร์ตโฟนของแอปเปิ้ล บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลงสู่อันดับ 5 ในตลาดจีน
ทั้งนี้ คานาลิส (Canalys) ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ตลาดเทคโนโลยีชั้นนำของโลกจากสิงคโปร์ได้เปิดเผยตัวเลขไตรมาส 1/2567 ในวันนี้ (26 เม.ย.) ระบุว่า หัวเว่ยได้ส่งมอบสมาร์ตโฟนในจีนจำนวน 11.7 ล้านเครื่อง ซึ่งพุ่งขึ้น 70% จากปีก่อนหน้าซึ่งในเวลานั้นหัวเว่ยเผชิญมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐ แต่ยังคงพยายามพลิกฟื้นธุรกิจสมาร์ตโฟนอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่แอปเปิ้ลร่วงจากอันดับ 1 ลงสู่อันดับ 5 เนื่องจากยอดส่งมอบสมาร์ตโฟนในจีนลดลง 25% เหลือประมาณ 10 ล้านเครื่อง ส่วนออปโป้ (Oppo) และวีโว่ (Vivo) ของจีนมียอดส่งมอบสมาร์ตโฟนลดลง 14% และ 9%
ด้านออเนอร์ (Honor) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนราคาประหยัดในเครือหัวเว่ยแต่แยกธุรกิจออกมาเมื่อปี 2563 มียอดส่งมอบสมาร์ตโฟนในจีนเพิ่มขึ้น 9%
รูนาร์ บิยอร์โฮด นักวิเคราะห์ของคานาลิสให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวนิกเกอิ เอเชียว่า จีนเป็นตลาดสมาร์ตโฟนรายใหญ่ที่สุดของโลกแต่การแข่งขันสูง โดยส่วนแบ่งตลาดระหว่างบริษัทสมาร์ตโฟนแถวหน้า 6 แห่งนั้นสูสีกันมาก โดยยอดส่งมอบสมาร์ตโฟนไตรมาส 1/2567 ในกลุ่มบริษัทสมาร์ตโฟนแถวหน้านั้นแตกต่างกันเพียงไม่กี่แสนเครื่องเท่านั้น และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละไตรมาส
สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชียรายงานว่า หัวเว่ยได้สร้างความประหลาดใจให้กับบรรดาผู้สังเกตการณ์ตลาดและเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายในเดือนส.ค.ปีที่ผ่านมา เมื่อหัวเว่ยเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่น “Mate 60 Pro” ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนที่รองรับเครือข่าย 5G รุ่นแรกที่ใช้ชิปของหัวเว่ยเองนับตั้งแต่สหรัฐขึ้นบัญชีดำทางการค้ากับหัวเว่ยจากข้อกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับกองทัพจีน แต่หัวเว่ยยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวมาโดยตลอด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (26 เม.ย. 67)