เซี่ยงไฮ้ ซีเคียวริตีส์ นิวส์รายงานในวันนี้ (15 มี.ค.) ว่า จีนควรเลือกช่วงเวลาและขนาดที่เหมาะสมในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ซึ่งนับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่า จีนอาจจะยังไม่เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกในเร็ว ๆ นี้
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางจีนเพิ่งให้คำมั่นว่าจะปรับนโยบายการเงินในเวลาที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นกับสหรัฐฯ
เมื่อวันศุกร์ (14 มี.ค.) ไฟแนนเชียล นิวส์ซึ่งเป็นสื่อที่อยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารกลางจีน เรียกร้องให้มีการปรับนโยบายการเงินอย่างเหมาะสม
ความคิดเห็นเหล่านี้อาจลดความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรืออัตราส่วนเงินสำรองของธนาคาร (RRR) ในเร็ว ๆ นี้
แม้ว่าจีนยังมีช่องว่างในการผ่อนคลายนโยบาย แต่เซี่ยงไฮ้ ซีเคียวริตีส์ นิวส์ระบุว่า “การปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือ RRR ในเวลาที่เหมาะสม หมายถึงการเลือกช่วงเวลาที่ถูกต้องและขนาดที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถใช้เครื่องมือนโยบายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในการรับมือกับความไม่แน่นอนในอนาคต”
“นโยบายการเงินของจีนต้องสร้างสมดุลระหว่างการสนับสนุนเศรษฐกิจและการป้องกันความเสี่ยง รวมถึงต้องคำนึงถึงส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมถึงอัตรากำไรของธนาคารภายในประเทศ”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จีนปรับลดทั้งอัตราดอกเบี้ยและ RRR ลงสองครั้งเมื่อปีที่แล้วเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางจีนยังไม่ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะขึ้นภาษีสินค้าจีน ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจจีนที่กำลังเผชิญภาวะเงินฝืดและการบริโภคที่อ่อนแอ
ไฟแนนเชียล นิวส์รายงานเพิ่มเติมในบทบรรณาธิการเมื่อวันศุกร์ว่า การผ่อนคลายนโยบายการเงิน รวมถึงการใช้เครื่องมือเชิงโครงสร้าง ไม่ได้หมายถึงแค่การลดอัตราดอกเบี้ยหรือ RRR เท่านั้น และการผ่อนคลายนโยบายการเงินก็ไม่ได้แปลว่าจะมีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ เพราะมาตรการกระตุ้นทางการเงินเพียงอย่างเดียวไม่ได้ทำให้เกิดการบริโภคที่ขยายตัวอย่างยั่งยืน
จื่อชุน หวาง นักเศรษฐศาสตร์จีนจากแคปิทัล อีโคโนมิกส์ระบุว่า นักลงทุนเริ่มหมดหวังกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม โดยอ้างถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้
หวางยังกล่าวว่า “นับตั้งแต่จีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายอย่าง ก็ยังไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย… และเป้าหมายนโยบายการเงินที่กำหนดไว้ในที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติบ่งชี้ว่า ปีนี้นโยบายจะคุมเข้มกว่าในปี 2567”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 มี.ค. 68)
Tags: กระตุ้นเศรษฐกิจ, จีน