สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวในวันอังคาร (7 พ.ย.) ว่า อินเทล บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ ตัดสินใจระงับการลงทุนในเวียดนาม ซึ่งเป็นแผนการที่อาจเพิ่มการดำเนินการธุรกิจของบริษัทได้เกือบ 2 เท่า โดยการระงับการลงทุนครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อความมุ่งมั่นของเวียดนามในการขยายอุตสาหกรรมชิปของประเทศ
เวียดนาม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตชิปที่ใหญ่ที่สุดในโลกของอินเทล โดยทั้งดำเนินการประกอบ บรรจุภัณฑ์และทดสอบชิป เวียดนามคาดหวังว่าอินเทลจะขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศข้อตกลงเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมชิปของเวียดนาม ในระหว่างการเดินทางเยือนเมื่อเดือนก.ย.
เวียดนามมุ่งมั่นที่จะวางตำแหน่งตนเองเป็นทางเลือกสำหรับธุรกิจแทนที่จีนและไต้หวัน ท่ามกลางความเสี่ยงด้านการเมืองและความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่า ไม่นานหลังจากที่ปธน.ไบเดนเดินทางเยือนเวียดนาม เจ้าหน้าที่สหรัฐบางส่วนได้แจ้งแก่นักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งว่า อินเทลได้ตัดสินใจระงับแผนขยายธุรกิจในเวียดนามแล้ว
อย่างไรก็ดี อินเทลไม่ได้ชี้แจงว่าเพราะเหตุใดถึงได้ยกเลิกแผนการขยายธุรกิจดังกล่าว แต่แหล่งข่าวอีกรายที่เข้าร่วมการประชุมระหว่างอินเทลกับสหรัฐและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเวียดนาม กล่าวว่า อินเทลมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาความเสถียรของระบบไฟฟ้า และข้อจำกัดหรือกฎระเบียบที่มากเกินไป
ทั้งนี้ อินเทลปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนดังกล่าว แต่กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เวียดนามจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของการดำเนินการผลิตทั่วโลกของบริษัท เนื่องจากอุปสงค์เซมิคอนดักเตอร์ที่เพิ่มมากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 พ.ย. 66)
Tags: INTEL, การลงทุน, สหรัฐ, อินเทล, อุตสาหกรรมชิป, เซมิคอนดักเตอร์, เวียดนาม