สิงคโปร์เตรียมจัดตั้งกองกำลังชุดใหม่เพื่อดูแลด้านความปลอดภัยด้านดิจิทัลโดยเฉพาะ ซึ่งแสดงถึงความจำเป็นที่จะต้องเสริมความแข็งแกร่งด้านกลาโหมให้พร้อมรับมือภัยคุกคามจากภายนอก รวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์ในช่วงที่มีการสู้รบระหว่างยูเครนและรัสเซีย
นายอึ้ง เอง เฮน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ แถลงที่รัฐสภาเมื่อวานนี้ (2 มี.ค.) ว่า กองทัพสิงคโปร์ (SAF) มีแผนจัดตั้ง “กองกำลังที่ 4” (Fourth service) ซึ่งจะรวบรวมและขยายขีดความสามารถด้านต่าง ๆ ของประเทศในด้านดิจิทัล
แผนดังกล่าวของสิงคโปร์เกิดขึ้นหลังจากที่แฮกเกอร์ใช้เครื่องมือด้านดิจิทัลเป็นอาวุธในช่วงที่รัสเซียบุกยูเครน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยูเครนสะท้อนถึงความเสี่ยงของสิงคโปร์ที่ถึงแม้จะเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ก็เป็นศูนย์กลางทางการเงินที่เปิดกว้างว่า อาจตกเป็นเป้าโจมตีทางไซเบอร์ ข่าวเท็จ และขบวนการที่ใช้ข้อมูลเพื่อมุ่งร้าย
นายอึ้งกล่าวว่า “กองทัพสิงคโปร์ยุคใหม่มีเป้าหมายที่จะพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะเดียวกันก็ยังมีช่องว่างและความสามารถที่ยังต้องได้รับการพัฒนา ซึ่งสถานการณ์และความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในระยะนี้เตือนให้เราต้องระวัง สิ่งที่ผมพูดถึงก็คือภัยคุกคามทางดิจิทัล”
นอกจากนี้ รมว.กลาโหมยังกล่าวว่า “กองทัพไซเบอร์ที่จะตั้งขึ้นใหม่นั้นจะดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งจะช่วยให้สิงคโปร์รับมือภัยคุกคามด้านดิจิทัลที่มีจากผู้รุกรานจากประเทศอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราคาดว่าภัยคุกคามนี้จะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ซับซ้อนกว่าเดิม และมาจากหลายกลุ่ม จึงจำเป็นต้องมีกองกำลังย่อย ๆ ซึ่งอาจมีขนาดระดับกองพลเตรียมพร้อมไว้”
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อปี 2564 รัฐบาลสิงคโปร์ได้อนุมัติกฎหมายรับมือการแทรกแซงจากต่างชาติ เพื่อป้องกันไม่ให้หน่วยงานหรือบุคคลต่างชาติแทรกแซงการเมืองของประเทศ นอกจากนี้ กฎหมายยังให้อำนาจแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในการเปิดเผยข้อมูลที่อยู่เบื้องหลังเนื้อหาที่อันตรายที่สงสัยว่าต่างชาติเป็นผู้ดำเนินการ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 มี.ค. 65)
Tags: กองทัพ, ยูเครน, รัสเซีย, สิงคโปร์, โจมตีทางไซเบอร์