กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (core CPI) ซึ่งไม่นับรวมต้นทุนด้านที่อยู่อาศัยและการขนส่ง และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสิงคโปร์ให้ความสำคัญ พุ่งขึ้นแตะระดับ 3.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่าในเดือนก.ย.ที่ขยายตัว 3% และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.1%
ส่วนดัชนี CPI ทั่วไปเดือนต.ค.ดีดตัวขึ้นแตะระดับ 4.7% จากระดับ 4.1% ในเดือนก.ย.
ธนาคารกลางสิงคโปร์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI พื้นฐานในปี 2566 จะอยู่ที่ 4% และคาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปจะอยู่ที่ระดับ 5% ส่วนในปี 2567 นั้น คาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะอยู่ที่ 2.5% – 3.5% และคาดว่าดัชนี CPI ทั่วไปจะอยู่ที่ 3% – 4%
ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 ของสิงคโปร์ขยายตัว 0.7% หลังจากที่มีการขยายตัว 0.1% ในไตรมาส 2 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์รอดพ้นจากภาวะถดถอย โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ที่มีการเปิดเผยล่าสุดนี้เป็นการประมาณการครั้งสุดท้าย
ธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุในรายงานทบทวนเศรษฐกิจมหภาครอบครึ่งปีว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์มีแนวโน้มซบเซาในระยะใกล้นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกเผชิญกับความไม่แน่นอน แต่ก็คาดว่า เศรษฐกิจภายในประเทศจะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีทั่วโลก
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 พ.ย. 66)
Tags: สิงคโปร์, เงินเฟ้อ, เศรษฐกิจสิงคโปร์