สหรัฐเรียกร้องจีนปล่อยน้ำมันจากคลังสำรองหวังกดราคาลดลงในตลาดโลก

หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า สหรัฐได้เรียกร้องให้จีนระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองเพื่อทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลง โดยการเรียกร้องดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างการประชุมทางไกลระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาสหรัฐ

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สหรัฐต้องการให้จีนเข้าร่วมกับสหรัฐในการระบายน้ำมันดิบออกจากคลังสำรอง พร้อมระบุว่า หนึ่งในประเด็นที่ผู้นำจีนและสหรัฐหยิบยกขึ้นมาพูดคุยในระหว่างการประชุมทางไกลครั้งนี้คือประเด็นด้านอุปทานพลังงาน โดยขณะนี้หน่วยงานด้านพลังงานของจีนและสหรัฐกำลังหารือกันเกี่ยวกับรายละเอียดของเรื่องนี้

แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า จีนเปิดกว้างสำหรับคำร้องขอของสหรัฐ แต่ก็ไม่ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้มาตรการใดอย่างเจาะจง โดยระบุเพียงว่า จีนจำเป็นต้องพิจารณาถึงความต้องการใช้น้ำมันภายในประเทศ

ทั้งนี้ สหรัฐมีน้ำมันดิบอยู่ในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) มากที่สุดในโลกถึง 727 ล้านบาร์เรล ขณะที่จีนมีน้ำมันสำรองอยู่ประมาณ 200 ล้านบาร์เรล ซึ่งหากทั้งสองประเทศระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองก็จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ระบุว่า สหรัฐมีแนวโน้มที่จะประกาศการระบายน้ำมันออกจากคลัง SPR อย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า ไม่ว่าจีนจะยอมตกลงระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองด้วยหรือไม่ก็ตาม และคาดว่าหลังจากนั้น สหรัฐจะเริ่มค่อย ๆ ระบายน้ำมันออกจากคลัง SPR เข้าสู่ตลาดในต้นปีหน้า

ข่าวความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะระบายน้ำมันออกจากคลัง SPR และการที่สหรัฐเรียกร้องให้จีนปล่อยน้ำมันออกจากคลังสำรองเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันนั้น เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดตลาดร่วงลงถึง 3% ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.)

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (18 พ.ย. 64)

Tags: , , ,