สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวเมื่อวันอังคาร (18 มิ.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐได้เข้าพบรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังญี่ปุ่น เพื่อพยายามกดดันให้ชาติพันธมิตรช่วยกันจำกัดขีดความสามารถของจีนในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์
นายอลัน เอสเตเวซ หัวหน้าฝ่ายนโยบายส่งออกของสหรัฐ กำลังพยายามสานต่อข้อตกลงฉบับปี 2566 ระหว่างทั้งสามประเทศ เพื่อสกัดกั้นจีนจากการเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิป เนื่องจากกังวลว่าจีนอาจนำไปใช้ในการพัฒนาทางทหาร
รายงานระบุว่า สหรัฐจำกัดการส่งออกชิปขั้นสูงและอุปกรณ์การผลิตชิปไปยังจีนเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2565 ซึ่งส่งผลให้หลายบริษัทได้รับผลกระทบ เช่น อินวิเดีย (Nvidia) และแลม รีเสิร์ช (Lam Research)
ต่อมาในเดือนก.ค. 2566 ญี่ปุ่น ซึ่งมีบริษัทผลิตอุปกรณ์ผลิตชิปชั้นนำอย่างนิคอน คอร์ป (Nikon Corp) และโตเกียว อิเล็กตรอน (Tokyo Electron) ได้ออกกฎห้ามส่งออกอุปกรณ์ 23 รายการไปยังจีน ตามรอยสหรัฐ
จากนั้นรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ก็เริ่มออกกฎควบคุมการส่งออกเครื่องจักรผลิตชิปของบริษัทเอเอสเอ็มแอล (ASML) ไปยังจีน
แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้สหรัฐกำลังหารือกับชาติพันธมิตรเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขึ้นบัญชีดำโรงงานผลิตชิปของจีนอีก 11 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 5 แห่ง ซึ่งรวมถึงบริษัท เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง อินเตอร์เนชันแนล คอร์ปอเรชัน (SMIC) ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 มิ.ย. 67)
Tags: จีน, ชิป, ชิปเซมิคอนดักเตอร์, สหรัฐ, เซมิคอนดักเตอร์, เนเธอร์แลนด์